เกิดเหตุแก๊สระเบิดศูนย์วิจัยอาวุธชีวภาพ และเชื้อไวรัส ในรัสเซีย ทำไฟไหม้ คนบาดเจ็บสาหัส เผยเป็นหนึ่งในที่เก็บเชื้อไวรัสอันตรายที่มากที่สุดในโลก แต่ไม่มีการรั่วไหล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า
เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ในรัสเซีย
สถานที่ทดลองและค้นคว้าวิจัยเชื้อไวรัสร้ายแรงหลายชนิด ที่ก่อตั้งขึ้นในยุคสงครามเย็น และเป็นสมัยที่รัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต
ข่าวการระเบิดดังกล่าวสร้างความกังวลไม่น้อย
เพราะเกรงว่าเชื้อไวรัสอันตรายเหล่านี้จะเกิดหลุดรอดออกมา
จนกลายเป็นโรคระบาด
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 ที่ศูนย์วิจัยเวกเตอร์เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในเมืองโคลต์โซโว แคว้นสเวียร์ดลอฟสค์ ค่อนไปทางตะวันตกของรัสเซีย โดยสถาบันวิจัยแบบปิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2517 ใช้เป็นห้องปฏิบัติการที่มีจุดประสงค์ค้นคว้าวิจัยวัคซีนชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้สำหรับต่อต้านและป้องกันอาวุธชีวภาพ
ในปัจจุบัน ศูนย์วิจัยแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการเก็บรักษาตัวอย่างไวรัสร้ายแรงเอาไว้มากที่สุดในโลก อาทิ เอชไอวี (HIV) ฝีดาษ (Smallpox) ไข้หวัดนก (Avian Influenza) เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ รวมถึง อีโบลา (Ebola) และเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ
จุดที่เกิดระเบิดคือชั้น
5 ของอาคารศูนย์วิจัย 6 ชั้น
โดยถังแก๊สได้เกิดระเบิดขึ้นในระหว่างดำเนินการปรับปรุงพื้นที่
แรงระเบิดกินวงกว้าง 30 ตารางเมตร ส่งผลให้กระจกหน้าต่างแตกและเกิดไฟไหม้
แต่ตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหายมากนัก และห้องเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสต่าง ๆ
ไม่ได้ตั้งอยู่ที่อาคารหลังดังกล่าว จึงไม่มีการรั่วไหลของเชื้อไวรัส
ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว นอกจากนี้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งต้องรักษาตัวในห้องไอซียู เนื่องจากบาดเจ็บสาหัสมาก
ทั้งนี้ แม้ว่าเชื้อไวรัสในแล็บดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้สร้างกระแสกังวลเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัย และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น รายงานระบุว่า รัสเซียมีศูนย์วิจัยลับ ๆ ลักษณะดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมากกระจายไปทั่วประเทศ ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต แต่ละแห่งล้วนเป็นศูนย์วิจัยที่ค้นคว้าสิ่งที่อันตราย นั่นก็คือ อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี ไปจนถึงอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ก็เกิดเหตุเตาปฏิกรณ์ระเบิดที่ศูนย์วิจัยของกองทัพเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่แคว้นสเวียร์ดลอฟสค์เช่นกัน ส่งผลให้เกิดรังสีรั่วไหล และทำให้นักวิทยาศาสตร์ 5 ราย กับทหารอีก 2 นาย เสียชีวิต
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 ที่ศูนย์วิจัยเวกเตอร์เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในเมืองโคลต์โซโว แคว้นสเวียร์ดลอฟสค์ ค่อนไปทางตะวันตกของรัสเซีย โดยสถาบันวิจัยแบบปิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2517 ใช้เป็นห้องปฏิบัติการที่มีจุดประสงค์ค้นคว้าวิจัยวัคซีนชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้สำหรับต่อต้านและป้องกันอาวุธชีวภาพ
ในปัจจุบัน ศูนย์วิจัยแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการเก็บรักษาตัวอย่างไวรัสร้ายแรงเอาไว้มากที่สุดในโลก อาทิ เอชไอวี (HIV) ฝีดาษ (Smallpox) ไข้หวัดนก (Avian Influenza) เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ รวมถึง อีโบลา (Ebola) และเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว นอกจากนี้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งต้องรักษาตัวในห้องไอซียู เนื่องจากบาดเจ็บสาหัสมาก
ทั้งนี้ แม้ว่าเชื้อไวรัสในแล็บดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้สร้างกระแสกังวลเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัย และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น รายงานระบุว่า รัสเซียมีศูนย์วิจัยลับ ๆ ลักษณะดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมากกระจายไปทั่วประเทศ ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต แต่ละแห่งล้วนเป็นศูนย์วิจัยที่ค้นคว้าสิ่งที่อันตราย นั่นก็คือ อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี ไปจนถึงอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ก็เกิดเหตุเตาปฏิกรณ์ระเบิดที่ศูนย์วิจัยของกองทัพเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่แคว้นสเวียร์ดลอฟสค์เช่นกัน ส่งผลให้เกิดรังสีรั่วไหล และทำให้นักวิทยาศาสตร์ 5 ราย กับทหารอีก 2 นาย เสียชีวิต