น้ำอุ่น ยอมรับเป็นคนชงเหล้าให้ ลัลลาเบล ดื่ม ทั้งเพียว ๆ และผสม หมดเหล้าไป 4 ขวด ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ตั้งข้อหาใคร รอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าชี้ชัดไปในทางใด
โดย พลตำรวจตรี สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยหลังการประชุมชุดคลี่คลายคดี พบว่า วันนี้ (21 กันยายน) คณะทำงานยังไม่พิจารณาออกหมายจับ หรือแจ้งข้อกล่าวหากับบุคลใด เนื่องจากยังต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยน่าจะได้รับผลการตรวจเลือดและผลนิติเวชภายนอกของผู้เสียชีวิต มาประกอบสำนวนได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากผลตรวจชี้ชัดไปในทางใด ก็จะสามารถดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้
ขณะที่ผลการตรวจอีกประมาณ 3 รายการ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะต้องทำการตรวจในห้องปฏิบัติการ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ธิติม นรพันธ์พิพัฒน์
ทั้งนี้ ได้ทำการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงแล้วทุกคน แม้จะยังไม่ได้รายละเอียดมากนัก แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนพยานอื่น ๆ หากมีประเด็นเกี่ยวข้องก็จะมีการเชิญมาให้ข้อมูลตลอดเวลา ในส่วนเรื่องการดื่มสุราของคนกลุ่มนี้ พบว่ายังไม่เข้าข่ายความผิดเรื่องการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ มีข้อมูลทางการแพทย์พบว่าหากดื่มแอลกอฮอล์จนมีปริมาณในเลือดเกิน 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ ซึ่งในส่วนนี้ น้ำอุ่น รัชเดช ได้ให้การว่าเป็นผู้ชงเหล้าให้ลัลลาเบลดื่ม ทั้งแบบเพียว ๆ และแบบผสมน้ำเปล่า โดยทั้งหมดดื่มเหล้าไปทั้งสิ้น 4 ขวด แต่ต้องรอผลการตรวจอีกครั้ง ถึงสามารถระบุได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้เสียชีวิตเท่าใด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน พลตำรวจตรี สัมฤทธิ์ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอก มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เป็นโฆษกชี้แจงความคืบหน้าทางคดีในทุกวัน และช่วงบ่ายวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการประชุมร่วมกับทีมสอบสวนทั้งหมด เรื่องความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง
ขณะที่เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พลตำรวจตรี สัมฤทธิ์ ได้เผยข้อมูลถึงเรื่องที่ตรวจพบร่องรอยฉีกขาดบริเวณช่องคลอดของผู้เสียชีวิต ว่า อาจเกิดได้ทั้งจากวัตถุ หรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้ ซึ่งต้องใช้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาระยะเวลาที่เกิดแผล มาประกอบการพิจารณาคดี โดยจากนี้ตำรวจจะเรียกตัวพริตตี้ และพยานอีกรายที่อยู่ในลิฟต์ตามกล้องวงจรปิด รวมพยานในคดีราว 20 ปาก มาให้ปากคำ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, ข่าวช่อง 3