ปิยะ อังกินันทน์ ผู้กว้างขวางของจังหวัดเพชรบุรี และเป็นอดีต ส.ส.เพชรบุรี 6 สมัย เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 86 ปี
วันที่ 25 กันยายน 2562 ไทยโพสต์ รายงานว่า นายปิยะ อังกินันทน์ ผู้กว้างขวางของจังหวัดเพชรบุรี และเป็นอดีต ส.ส. 6 สมัย ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพชรบุรี เมื่อเวลา 09.17 น. สิริอายุ 86 ปี โดยครอบครัวกำหนดรดน้ำศพ เวลา 16.00 น. ณ วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี และพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม เวลา 20.00 น. ณ ศาลาฌาปนสถาน วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรี จากนั้นจะมีพิธีบรรจุศพ รอกำหนดการขอพระราชทานเพลิงศพในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ นายปิยะ ป่วยด้วยอาการโรคไตและโรคเบาหวาน โดยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเรื่อยมาเป็นเวลานานหลายปี จนล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ลื่นล้มภายในบ้านพักที่บ้านริมคลองชลประทานสาย 1 อ.ท่ายาง และมีเลือดคั่งในสมอง ครอบครัวได้นำตัวส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพชรบุรี ก่อนจะเสียชีวิตลงดังกล่าว
สำหรับ นายปิยะ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2476 เป็นบุตรชายคนโตของ นายผาด อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี และนางบุญยวด อังกินันทน์ โดยมี นายยุทธ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี 7 สมัย อดีต รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รมช.กระทรวงแรงงาน นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี (คนปัจจุบัน) เป็นน้องร่วมบิดามารดา
นายปิยะ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สมรสครั้งแรกกับนางอุไร (สิ่ม) อังกินันทน์ มีบุตร-ธิดา รวม 3 คน คือ
- นายสุขสันต์ อังกินันทน์ หรือ โป๋ รองนายก อบจ.เพชรบุรี
- นางปานจิต ชิ้นศิริ
- นายชัยยะ อังกินันทน์ หรือ ปราย นายก อบจ.เพชรบุรี
สมรสครั้งที่ 2 กับ นางสุคัณธา อังกินันทน์ มีธิดา 1 คน คือ นางสาวปิยะนาต อังกินันทน์
นายปิยะ เข้าสู่วงการการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด เมื่อปี 2500 ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในปี 2512 สังกัดพรรคสหประชาไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ครั้งต่อมา ปี 2518 สังกัดพรรคชาติไทย ได้เป็น ส.ส. ครั้งแรก และได้รับเลือกเรื่อยมารวม 6 สมัย ดังนี้ ปี 2522 สังกัดพรรคสยามประชาธิปไตย, ปี 2526 สังกัดพรรคชาติประชาธิปไตย, ปี 2531 สังกัดพรรคชาติไทย, ปี 2535 สังกัดพรรคชาติไทย และปี 2539 สังกัดพรรคกิจสังคม
นายปิยะ เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคชาติประชาธิปไตย ร่วมกับ พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และเคยเป็นเลขานุการ รมว.กระทรวงกลาโหม สมัย พล.ต. ประมาณ อดิเรกสาร เป็นรัฐมนตรี
นายปิยะ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) เมื่อปี 2532
นายปิยะ เป็นนักการเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านภาพพจน์ของความเป็นนักเลงเมืองเพชร พูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา เสียงดัง ประเภทใจถึงพึ่งได้คนแรก ๆ ของนักการเมืองไทย ด้วยความมีบารมีและมีลูกน้องบริวารจำนวนมาก ทำให้ได้รับฉายา "เจ้าพ่อเมืองเพชร" ซึ่งเจ้าตัวมักพูดติดตลกว่า เจ้าพ่อเจ้าแม่ต้องอยู่บนศาลเจ้า หรืออยู่ตามต้นไม้ ตนไม่ใช่เจ้าพ่อแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







