แม่อ้างลูกที่รับมาเลี้ยง แท้จริงอายุ 22 เป็นคนแคระ แถมมีแผนจะฆ่าคนในบ้าน

          คดีฉงน แม่ผู้ทอดทิ้งลูกอุปถัมภ์วัย 9 ขวบ อ้าง เธอไม่ใช่เด็ก แท้จริงอายุ 22 ปี เป็นคนแคระ มีอาการทางจิต คิดร้าย พยายามฆ่าคนในครอบครัว
          เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เว็บไซต์เมโทร เผยเรื่องราวคดีชวนฉงน โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 คู่รักชาวอเมริกัน คริสเตน บาร์เนตต์ วัย 45 ปี และ ไมเคิล บาร์เนตต์ วัย 43 ปี อดีตสามี ได้รับเลี้ยง นาตาเลีย เกรซ เด็กหญิงชาวยูเครนที่มีสภาวะแคระ มาเป็นลูกบุญธรรม หลังจากนั้น 3 ปี พวกเขาปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังที่ห้องเช่าในรัฐอินดีแอนา ก่อนจะพากันย้ายไปอยู่ประเทศแคนาดา

          ขณะนี้ตำรวจได้ดำเนินการฟ้องคริสเตน และไมเคิล ในข้อหาละทิ้งเด็กที่อยู่ในความดูแล ทว่า คริสเตน ได้กล่าวอ้างว่า นาตาเลีย ไม่ใช่เด็ก เธอเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปีแล้ว

          คริสเตน เผยว่า ตอนที่ครอบครัวของเธอรับนาตาเลียมาเลี้ยงในปี 2553 นาตาเลียก็มีอายุ 22 ปีแล้ว แต่แกล้งทำตัวเป็นเด็กอายุ 6 ขวบ กระทั่งหลังจากรับมาเลี้ยงไม่นาน ก็เริ่มสังเกตพบความผิดปกติต่าง ๆ ที่ทำให้เชื่อว่าเธอไม่ใช่เด็ก เพราะนาตาเลียมีประจำเดือน มีขนที่อวัยวะเพศ และมีฟันแบบผู้ใหญ่
          ทั้งนี้ คริสเตนยังอ้างว่า นาตาเลียใช้ภาษาแบบคนโต ไม่ใช่ที่เด็กพูดกัน เธอเคยบอกกับคริสเตนซึ่งเปิดโรงเรียนเล็ก ๆ ว่า "เห็นเด็ก ๆ เหล่านี้แล้วเหนื่อยแทน ฉันไม่รู้ว่าคุณดูแลไปได้อย่างไร"
          คริสเตน กล่าวกับสื่อออนไลน์ว่า "ฉันกำลังถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้กระทำต่อเด็ก ทั้ง ๆ ที่เธอคนนั้น (นาตาเลีย) ไม่ใช่เด็กแล้ว ตลอดเวลาที่เธออยู่กับครอบครัว เธอไม่สูงขึ้นเลยแม้แต่นิ้วเดียว ซึ่งแม้กระทั่งเด็กที่มีภาวะแคระยังมีความเปลี่ยนแปลงนี้บ้าง แพทย์ทุกคนยืนยันว่าเธอกำลังทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยทางจิตใจชนิดรุนแรง ซึ่งวินิจฉัยได้เฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้น เธอเคยกระโดดออกจากรถที่กำลังวิ่ง เธอละเลงเลือดเปื้อนบนกระจก และเธอยังทำอีกหลายสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเด็กตัวเล็ก ๆ จะทำได้"
          คริสเตน ซึ่งเป็นคุณแม่ลูกสาม เผยเพิ่มเติมว่า นาตาเลียเคยพูดขู่ว่าจะฆ่าสมาชิกในครอบครัว เธอมีความคิดและคำพูดที่ไม่เหมือนเด็ก เธอบอกว่าจะม้วนพวกเราใส่ในผ้าห่ม เอาไปวางไว้ในสวนหลังบ้าน เธอแอบซ่อนของมีคมไว้รอบ ๆ บ้าน และยังเคยเห็นนาตาเลียหยอดสารฟอกขาวใส่ในกาแฟของเธอครั้งหนึ่งด้วย

          ในที่สุด คริสเตนตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากแพทย์ มีการทดสอบความหนาแน่นของกระดูก เพื่อกำหนดอายุของนาตาเลีย ผลปรากฏว่าเธอมีอายุมากกว่าที่ระบุไว้ 14 ปี เป็นอย่างน้อย เมื่อทราบเช่นนั้น คริสเตนจึงเริ่มซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับวัยรุ่นมาให้นาตาเลียใส่ แต่สังเกตว่าหลังจากนั้น พฤติกรรมของเธอก็เริ่มแย่ลงอย่างรวดเร็ว
          กระทั่งในปี 2555 นาตาเลียถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษากับทางหน่วยงานจิตเวชของรัฐในระยะยาว ภายหลังจากเธอถูกกล่าวหาว่าพยายามผลักคริสเตนเข้าไปในรั้วไฟฟ้า คริสเตน ระบุว่า ขณะนั้นนาตาเลียสารภาพว่าเธอมีอายุมากกว่าที่เห็น จากนั้นครอบครัวก็ประสบความสำเร็จในการยื่นคำร้องต่อศาลสูง Marion County เพื่อเปลี่ยนอายุของนาตาเลียตามความเป็นจริง แก้ไขปีเกิดของเธอเป็นปี 2532 เธอจึงได้รับการรักษาทางจิตเวชที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่

          หลังจากนาตาเลียถูกปล่อยตัวออกมาจากการรักษา ในปีเดียวกัน ครอบครัวก็ตัดสินใจให้เธอออกไปพักที่แฟลตเองตามลำพัง และจ่ายค่าเช่าให้เธอ อีกทั้งยังช่วยให้เธอได้รับผลประโยชน์ประกันสังคม และแสตมป์อาหาร อย่างไรก็ตาม คริสเตน กล่าวว่า หลังจากนั้น นาตาเลียได้ตัดขาดการติดต่อกับครอบครัวไป พวกเขาไม่ได้เห็นเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และดูเหมือนว่าไม่มีใครที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
          กระทั่งล่าสุด มีการตั้งฟ้องร้องคดีนี้ขึ้นมา คริสเตนยังคงยืนยันว่า ตามรายงานเบิกความ ระบุว่า ไมเคิล อดีตสามี เคยสารภาพว่า คริสเตนเคยบอกให้นาตาเลียยอมรับกับคนอื่น ๆ ว่า แม้ว่าเธอจะดูเด็ก แต่จริง ๆ เธออายุ 22 ปี อย่างไรก็ตาม ทนายความของเขา ระบุว่า คำให้การในรายการดังกล่าวเป็นความเท็จ ไมเคิลไม่เคยบอกว่าเขารู้ว่านาตาเลียเป็นเด็ก

          ขณะนี้ คริสเตนและไมเคิลได้รับการประกันตัวออกมาชั่วคราว ส่วนคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา และเรื่องที่กล่าวทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำให้การของฝ่ายครอบครัวบาร์เนตต์ เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ยังไม่มีการเปิดเผยจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งศาลก็จะต้องพิจารณาและมีการตรวจสอบต่อไปว่าคำอ้างของคริสเตนมีความจริงแค่ไหน