ช้างป่าเขาอ่างฤาไน ถูกยิงล้มสลด พบพิรุธบิดเบือนหลายอย่าง คนหวั่นช้างล้มฟรี

           จากการสอบถาม นายตวงพร แซ่เตียว อายุ 63 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของสวนปาล์ม มาพบเห็นช้างกำลังกินยอดปาล์มอยู่ เลยพยายามไล่ แต่ช้างกลับวิ่งเข้าใส่ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 22.30 น. ตนจึงใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันตัว
           ทั้งนี้ นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ.2) ศรีราชา เปิดเผยผลการตรวจสอบศพช้าง พบว่ามีรอยกระสุนบริเวณหัว เหนือตาด้านขวา จำนวน 1 จุด มีรอยเลือดออกจากแผลกองในพื้นดินเล็กน้อย สภาพโดยรอบศพช้างป่าไม่พบร่องรอยการดิ้นหรือชักก่อนล้ม พบขี้ช้างมีของเหลวลักษณะมูกปนเลือดเล็กน้อย

           ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก สัตว์ : สิทธิและโอกาส - Thailand Animal Rights Alliance. ได้มีการโพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์สลดดังกล่าว มองว่าช้างป่าตัวนี้อาจจะล้มฟรีหรือไม่ ซึ่งระบุว่า การล้มของช้างตัวนี้ มีกลิ่นไม่ดีตั้งแต่ต้น มีการพยายามชี้ประเด็นว่าเป็นช้างตัวผู้ ทั้งที่จริงแล้วเป็นช้างตัวเมียแม่ลูกอ่อน และช้างถูกยิงเนื่องจากไล่กระทืบคน และมีเจ้าหน้าที่นักวิชาการบางคนออกมาเขียนโพสต์ข่าวในหน้าเพจตัวเองนำหน้าเพื่อเบี่ยงประเด็นให้ช้างดูดุดันก้าวร้าว เพื่อเสนอข่าวในแง่ที่จะเป็นการป้องกันตัว ซึ่งขัดแย้งกับผลการชันสูตรที่ออกมาว่าช้างถูกยิงเจาะกะโหลกเข้าจุดสำคัญจนล้มในทันที เป็นการยิงที่แม่นยำ ไม่เหมือนกับที่กล่าวอ้างว่ายิงขณะวิ่งหนีจากการถูกไล่กระทืบ
           การสูญเสียชีวิตของช้างป่าไม่ว่าล้มเดี๋ยว ล้มคู่ หรือล้มเป็นโขลง ทุกอย่างล้วนมีเหตุเบื้องหลัง ที่มนุษย์บางคนบางกลุ่มทำให้เป็นให้เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยความจงใจ หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่มันเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่กำกับดูแลจะต้องรีบดำเนินการสอบสวนแก้ไข อย่าปล่อยให้การล้มของช้างแม่ลูกอ่อนตัวล่าสุดนี้หายไปกับสายลมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

           TARA ขอเรียกร้องให้ท่านรัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โปรดช่วยสั่งการทำคดีนี้ให้เป็นตัวอย่าง คดีของการกระทำอาชญากรรมทางธรรมชาติใด ๆ ก็ตามควรจะได้รับการลงโทษตามตัวบทกฎหมาย มิฉะนั้นคงไม่มีใครรู้สึกหลาบจำ และกฎหมายจะยิ่งไร้ค่า หากเจ้าหน้าที่รัฐยังคงเกรงใจกลุ่มอันธพาลของผู้มีอำนาจในพื้นที่บางกลุ่มอยู่

ติดตามข่าวอื่น ๆ ของอีจันได้ที่