ชมคลิป นาทีเจ้าหน้าที่ประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันช่วยชีวิตฉลามวาฬ หลังพบมีเชือกผูกติดอยู่กับหาง รัดแน่นจนบาดเจ็บ เผยแม้เหนื่อยแต่ก็สุขใจ เมื่อได้ช่วยเหลือน้องฉลามวาฬให้ปลอดภัย
เป็นภาพนาทีชีวิต ที่สร้างความลุ้นระทึกอย่างมากต่อทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ สำหรับปฏิบัติการช่วยชีวิตฉลามวาฬที่ถูกเชือกมัดติดหาง ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันและผลิตปิโตรเลียมของแหล่งเอราวัณ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 เผยให้เห็นภาพความร่วมแรงร่วมใจกันของกลุ่มเจ้าหน้าที่บนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ขณะกำลังออกแรงดึงเชือกที่มัดอยู่ติดกับหางฉลามวาฬ ดึงฉลามให้พ้นน้ำเพื่อจะได้นำเชือกออกให้จนสำเร็จ
โดยคุณ Nat Panupong Taps บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องสู้แรงกับน้องฉลามวาฬ น้องตัวหนักมาก เหนื่อย แต่ก็สุขใจ โดยเจ้าหน้าที่พบว่าน้องฉลามวาฬมีเชือกมัดติดหางแล้วว่ายเข้ามาใกล้แท่นที่พักอาศัย ทุกคนลุ้นกันให้น้องว่ายเข้ามาใกล้ ๆ แท่น จนกระทั่งจับเชือกได้ แล้วทำการช่วยเหลือ โดยพบว่าฉลามวาฬตัวนี้โดนเชือกรัดแน่นจนได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nat Panupong Taps
ขณะที่ ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ฉลามวาฬตัวดังกล่าวนั้น เข้าใจว่าอาจติดอวนมา ซึ่งพี่ชาวประมงช่วยกันดึงออก แต่ตัดเชือกไม่ทันเลยติดมา กระทั่งมาเจอเจ้าหน้าที่ประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันช่วยเหลือไว้
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยมาก เพราะคนบนแท่นขุดเจาะของไทย ช่วยสัตว์หายากติดขยะทะเลหรือเศษอวนเป็นประจำ โดยเท่าที่ตนจำได้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน พี่ ๆ ก็เคยช่วยลงน้ำตามฉลามวาฬที่เชือกติดหางเข้ามาใกล้แท่น จนปลดเชือกได้สำเร็จ
ยังมีอีกครั้งที่คนบนแท่นบงกชโรยตัวลงไปช่วยเต่าติดเศษอวน ในปีนี้เอง หนนี้เป็นครั้งที่ 3 เท่าที่ทราบ และสำเร็จอีกเช่นกัน
แม้แต่ในต่างประเทศ มีการช่วยแบบนี้บ้าง แต่ไม่บ่อยครั้ง ต่างจากเมืองไทยที่เจอเมื่อไหร่ช่วยเสมอ เอาจริงเอาจังกันสุด ๆ การช่วยทั้ง 3 ครั้ง ล้วนต่างสถานที่ต่างบริษัทกัน แต่ทุกครั้งทำกันเต็มที่เสมอ
"ขอบคุณพวกพี่ ๆ อีกครั้ง นอกจากช่วยชีวิตน้องจุด พี่ ๆ ยังช่วยทำให้คนรักทะเลไทยภูมิใจ คนหากินกับทะเลไทย ไม่ว่าเป็นชาวประมง นักดำน้ำ หรือคนบนแท่นผลิตปิโตรเลียม พวกเราล้วนสำนึกบุญคุณท้องทะเล และพร้อมจะช่วยเธอเสมอครับ"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เฟซบุ๊ก Nat Panupong Taps
เป็นภาพนาทีชีวิต ที่สร้างความลุ้นระทึกอย่างมากต่อทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ สำหรับปฏิบัติการช่วยชีวิตฉลามวาฬที่ถูกเชือกมัดติดหาง ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันและผลิตปิโตรเลียมของแหล่งเอราวัณ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 เผยให้เห็นภาพความร่วมแรงร่วมใจกันของกลุ่มเจ้าหน้าที่บนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ขณะกำลังออกแรงดึงเชือกที่มัดอยู่ติดกับหางฉลามวาฬ ดึงฉลามให้พ้นน้ำเพื่อจะได้นำเชือกออกให้จนสำเร็จ
โดยคุณ Nat Panupong Taps บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องสู้แรงกับน้องฉลามวาฬ น้องตัวหนักมาก เหนื่อย แต่ก็สุขใจ โดยเจ้าหน้าที่พบว่าน้องฉลามวาฬมีเชือกมัดติดหางแล้วว่ายเข้ามาใกล้แท่นที่พักอาศัย ทุกคนลุ้นกันให้น้องว่ายเข้ามาใกล้ ๆ แท่น จนกระทั่งจับเชือกได้ แล้วทำการช่วยเหลือ โดยพบว่าฉลามวาฬตัวนี้โดนเชือกรัดแน่นจนได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nat Panupong Taps
ขณะที่ ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ฉลามวาฬตัวดังกล่าวนั้น เข้าใจว่าอาจติดอวนมา ซึ่งพี่ชาวประมงช่วยกันดึงออก แต่ตัดเชือกไม่ทันเลยติดมา กระทั่งมาเจอเจ้าหน้าที่ประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันช่วยเหลือไว้
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยมาก เพราะคนบนแท่นขุดเจาะของไทย ช่วยสัตว์หายากติดขยะทะเลหรือเศษอวนเป็นประจำ โดยเท่าที่ตนจำได้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน พี่ ๆ ก็เคยช่วยลงน้ำตามฉลามวาฬที่เชือกติดหางเข้ามาใกล้แท่น จนปลดเชือกได้สำเร็จ
ยังมีอีกครั้งที่คนบนแท่นบงกชโรยตัวลงไปช่วยเต่าติดเศษอวน ในปีนี้เอง หนนี้เป็นครั้งที่ 3 เท่าที่ทราบ และสำเร็จอีกเช่นกัน
แม้แต่ในต่างประเทศ มีการช่วยแบบนี้บ้าง แต่ไม่บ่อยครั้ง ต่างจากเมืองไทยที่เจอเมื่อไหร่ช่วยเสมอ เอาจริงเอาจังกันสุด ๆ การช่วยทั้ง 3 ครั้ง ล้วนต่างสถานที่ต่างบริษัทกัน แต่ทุกครั้งทำกันเต็มที่เสมอ
"ขอบคุณพวกพี่ ๆ อีกครั้ง นอกจากช่วยชีวิตน้องจุด พี่ ๆ ยังช่วยทำให้คนรักทะเลไทยภูมิใจ คนหากินกับทะเลไทย ไม่ว่าเป็นชาวประมง นักดำน้ำ หรือคนบนแท่นผลิตปิโตรเลียม พวกเราล้วนสำนึกบุญคุณท้องทะเล และพร้อมจะช่วยเธอเสมอครับ"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เฟซบุ๊ก Nat Panupong Taps