Thailand Web Stat

พ่อสัญญา ไม่ให้หนุ่มหัวร้อนขับรถอีก-ยันที่บ้านไม่ใช่เศรษฐี ลูกเสียใจโดนไล่ออกงาน


          พ่อวอนสังคมให้อภัย หนุ่มแว่นหัวร้อน พิจารณาส่งกลับไปอยู่ต่างประเทศ ยันที่บ้านไม่ใช่เศรษฐีตามคำโอ้อวด เผยลูกชายเสียใจหลังโดนบริษัทไล่ออกงาน บอกบริษัทไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น


          เป็นคลิปที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีหนุ่มแว่นหัวร้อน หรือ นายรชฏ หวังกิจเจริญสุข อายุ 24 ปี ขับรถเก๋งซีวิคแล้วเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถกระบะ หนุ่มแว่นฟิวส์ขาด ด่าคนขับรถกระบะยับ แถมดูถูกคู่กรณี และโอ้อวดเงินทอง ระบุว่าตนเป็นลูกเศรษฐี มีเงินในธนาคารออมสิน 1 ล้าน ขับรถเก๋งคันละ 1.2 ล้าน ก่อนจะลามไปด่าคนไทยทั้งประเทศ ต่อมาหนุ่มแว่นได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับแม่ ยกมือไหว้ขอโทษสังคม โดยผู้เป็นแม่อ้างว่าลูกชายอาละวาดเพราะป่วยซึมเศร้าและไม่ได้กินยานั้น

          อ่านข่าว : หนุ่มหัวร้อน-แม่ ขอโทษ สติหลุดเพราะรักรถมาก แม่ยันอาละวาด ป่วยไม่ได้กินยา

          ล่าสุด (24 ตุลาคม 2562) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานสัมภาษณ์พ่อของหนุ่มแว่น เปิดเผยว่า ลูกชายตนชื่อนายหมู ก่อนเกิดเหตุ หมูและแฟนสาวกำลังเดินทางไปทำบุญที่วัด แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน จึงมีปากเสียงกันตามคลิป โดยรถของคู่กรณีนั้น ทางประกันภัยเคลียร์ให้เรียบร้อยแล้ว คู่กรณีไม่ได้ติดใจอะไร ปรับความเข้าใจกันแล้ว


          ทางครอบครัวต้องขอโทษสังคมและขอโทษกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมทุกอย่าง ที่เกิดเหตุการณ์นี้เพราะลูกชายป่วยโรคซึมเศร้า และมีภาวะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลมโนรมย์ ย่านบางนา รับการรักษามาปีกว่าแล้ว ซึ่งต้องกินยาตลอดเวลา

หนุ่มหัวร้อน

          ทั้งนี้ ลูกชายไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก เรียนและใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ พอเรียนจบก็กลับมาอยู่เมืองไทยได้ปีกว่า ทุกครั้งที่ลูกขับรถมักจะบ่นว่าความเป็นระเบียบของเมืองไทยไม่ดี ไม่มีน้ำใจ แตกต่างจากเมืองนอก เวลาขับรถเมืองนอก หากเปิดไฟขอทางเขาจะให้ทาง แต่เมืองไทย ถ้าเปิดไฟใส่คือโดนด่า

          ตั้งแต่รู้ว่าลูกป่วยก็คอยดูแลกันมาตลอด ลูกไม่เคยมีอาการก้าวร้าวเหมือนในคลิป แต่หากมีอะไรไปสะกิดใจเขา หรือไปกระตุ้นก็จะมีอาการทันที โรคซึมเศร้ามันมีหลายประเภท แต่ลูกตนเป็นประเภทนี้ ที่ผ่านมาพ่อและแม่สอนเสมอว่า ในท้องถนนมีทั้งคนมีน้ำใจและไม่มีน้ำใจ ต้องแยกแยะให้ได้ ตนยอมรับว่าเห็นคลิปแล้วตกใจ จากนี้จะไม่ให้ลูกขับรถอีกแล้ว โดยอยากขอสังคมให้อภัยลูกเพราะเขาป่วยจริง ต้องกินยาทุกวัน

หนุ่มหัวร้อน

          ส่วนเรื่องการถูกให้ออกจากงานนั้น ลูกชายรับรู้แล้ว เขาเสียใจและบอกว่าบริษัทไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าลูกชายเรียนเก่งและเป็นอาจารย์สอนภาษา เขาตั้งใจทำงานมาก แต่จากนี้จะให้เขาพักรักษาตัวก่อน และทางครอบครัวอาจพิจารณาให้กลับไปอยู่ที่ต่างประเทศหรือไม่ แต่ตนมีลูกชายคนเดียว พอเขาเรียนจบก็อยากให้กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่

          ส่วนที่เรื่องลูกบอกว่าบ้านมีฐานะร่ำรวยมากนั้น พ่อขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่ก็ยังต้องทำงาน สิ่งที่ลูกพูดไปเพราะอาการป่วย ด้วยความคิดไปเองและพยายามด่าทอคู่กรณี ส่วนเงินเก็บก็เป็นเงินที่ลูกทยอยสะสมด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

          อย่างไรก็ตาม อยากร้องขอสังคมให้อภัยและหยุดแชร์คลิปดังกล่าว พร้อมฝากบอกกลุ่มที่ปลอมเฟซบุ๊กลูกชายให้หยุดพฤติกรรม เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ลูกก็ปิดเฟซบุ๊กและช่องทางการสื่อสารทางโซเชียลทั้งหมด

หนุ่มหัวร้อน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่อสัญญา ไม่ให้หนุ่มหัวร้อนขับรถอีก-ยันที่บ้านไม่ใช่เศรษฐี ลูกเสียใจโดนไล่ออกงาน อัปเดตล่าสุด 24 ตุลาคม 2562 เวลา 15:47:48 96,639 อ่าน
TOP
x close