คู่กรณีหนุ่มซีวิค ยอมรับเคยดื่มน้ำกระท่อม-เบียร์ ตอนขับรถ จริง แต่วันเกิดเหตุไม่ได้ดื่ม ด้านนักจิตวิทยา แนะคนไทยดึงสติ ไม่อย่างนั้นสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมของการใช้ความรุนแรง
จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข่าวของ นายรชฏ หวังกิจเจริญสุข อายุ 24 ปี หนุ่มซีวิคหัวร้อนจากคลิปดัง ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวถูกขุดคุ้ยประวัติ, ดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมไปถึงพ่อ-แม่-ภรรยา และญาติที่ใช้นามสกุลเดียวกัน ก็ถูกโยงเข้าประณามเช่นเดียวกัน ต่อมาโลกออนไลน์มีการเผยเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของคู่กรณีของนายรชฏ ที่มีการโพสต์อวดน้ำกระท่อมประจำ โชว์ดื่มเบียร์ขณะขับรถเย้ยกฎหมาย พบทำมานานแล้วแค่ยังไม่เกิดเหตุเท่านั้น [อ่านข่าว : ส่อคดีพลิก แฉอีกมุม คู่กรณี หนุ่มหัวร้อน อวดดื่มน้ำกระท่อม โชว์จิบเบียร์ขณะขับรถ]
ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 หนุ่มคู่กรณีของนายรชฏ ระบุไม่เชื่อว่า นายรชฏ จะป่วยทางจิต เพราะหากป่วยจริง ทำไมถึงปล่อยให้ขับรถได้ หลังเกิดเรื่อง ตนไม่ได้แจ้งความใด ๆ เพราะอยากให้เรื่องจบ ส่วนประเด็นที่ดื่มเบียร์ขณะขับรถนั้น ตนดื่มจริง ส่วนน้ำกระท่อมนั้นขอให้เรียกว่าน้ำสมุนไพร ทั้งนี้ วันเกิดเหตุที่มีเรื่องกับนายรชฏยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์
ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน ไปล้อมโรงพัก รศ. นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้ออกมาระบุว่า กรณีที่มีชาวบ้านไปชุมนุมหน้าโรงพักเพื่อต่อว่านายรชฏ นั้น ขอเตือนว่าอย่าไหลไปตามข้อมูลในโซเชียล ทุกคนต้องตั้งสติ เหตุการณ์ล้อมโรงพักเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าสังคมไทยป่วย แล้วไล่ล่าเขาแบบนั้น หากเขาเป็นคนป่วยจริง ก็ต้องตั้งคำถามกลับว่า ที่เราไปไล่ล่าเขา "ใครบ้ากว่ากัน"
รศ. นพ.สุริยเดว ระบุว่า ตนเป็นห่วงว่าสังคมเราใช้อารมณ์กันง่ายขึ้น เด็กและเยาวชนที่ดูอยู่ อาจจะซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปง่าย ๆ ก็จะทำให้สังคมนี้กลายเป็นสังคมของการใช้ความรุนแรงมากกว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีส่วนช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างสันติสุขแล้ว เราอาจจะนำมาทำความเข้าใจและตระหนักรู้ของเราเอง แต่อย่าสร้างบาดแผลใจ เพราะไม่ใช่แค่เคสนี้ที่ป่วย แต่จะกลายเป็นสังคมป่วยร่วมไปด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข่าวของ นายรชฏ หวังกิจเจริญสุข อายุ 24 ปี หนุ่มซีวิคหัวร้อนจากคลิปดัง ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวถูกขุดคุ้ยประวัติ, ดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมไปถึงพ่อ-แม่-ภรรยา และญาติที่ใช้นามสกุลเดียวกัน ก็ถูกโยงเข้าประณามเช่นเดียวกัน ต่อมาโลกออนไลน์มีการเผยเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของคู่กรณีของนายรชฏ ที่มีการโพสต์อวดน้ำกระท่อมประจำ โชว์ดื่มเบียร์ขณะขับรถเย้ยกฎหมาย พบทำมานานแล้วแค่ยังไม่เกิดเหตุเท่านั้น [อ่านข่าว : ส่อคดีพลิก แฉอีกมุม คู่กรณี หนุ่มหัวร้อน อวดดื่มน้ำกระท่อม โชว์จิบเบียร์ขณะขับรถ]
ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 หนุ่มคู่กรณีของนายรชฏ ระบุไม่เชื่อว่า นายรชฏ จะป่วยทางจิต เพราะหากป่วยจริง ทำไมถึงปล่อยให้ขับรถได้ หลังเกิดเรื่อง ตนไม่ได้แจ้งความใด ๆ เพราะอยากให้เรื่องจบ ส่วนประเด็นที่ดื่มเบียร์ขณะขับรถนั้น ตนดื่มจริง ส่วนน้ำกระท่อมนั้นขอให้เรียกว่าน้ำสมุนไพร ทั้งนี้ วันเกิดเหตุที่มีเรื่องกับนายรชฏยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์
ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน ไปล้อมโรงพัก รศ. นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้ออกมาระบุว่า กรณีที่มีชาวบ้านไปชุมนุมหน้าโรงพักเพื่อต่อว่านายรชฏ นั้น ขอเตือนว่าอย่าไหลไปตามข้อมูลในโซเชียล ทุกคนต้องตั้งสติ เหตุการณ์ล้อมโรงพักเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าสังคมไทยป่วย แล้วไล่ล่าเขาแบบนั้น หากเขาเป็นคนป่วยจริง ก็ต้องตั้งคำถามกลับว่า ที่เราไปไล่ล่าเขา "ใครบ้ากว่ากัน"
รศ. นพ.สุริยเดว ระบุว่า ตนเป็นห่วงว่าสังคมเราใช้อารมณ์กันง่ายขึ้น เด็กและเยาวชนที่ดูอยู่ อาจจะซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปง่าย ๆ ก็จะทำให้สังคมนี้กลายเป็นสังคมของการใช้ความรุนแรงมากกว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีส่วนช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างสันติสุขแล้ว เราอาจจะนำมาทำความเข้าใจและตระหนักรู้ของเราเอง แต่อย่าสร้างบาดแผลใจ เพราะไม่ใช่แค่เคสนี้ที่ป่วย แต่จะกลายเป็นสังคมป่วยร่วมไปด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
