เต้ มงคลกิตติ์ นำหน่วย อีโอดี พกชิ้นส่วนทีเอ็นทีเข้ารัฐสภา พิสูจน์เครื่องตรวจระเบิดสภาใช้ไม่ได้ หลังรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากอเมริกา เพื่อใช้ในงานประชุมอาเซียน สุดงง ก่อนหน้านี้ทดสอบในจังหวัดชายแดนใต้แล้ว สามารถตรวจจับได้ในรัศมี 8 เมตร
วันที่ 30 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร
สภาผู้แทนราษฎร
แถลงพร้อมรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา
เพื่อมอบให้รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 2 เครื่อง พร้อมระบุว่า เครื่องดังกล่าวจะใช้ทดสอบในการรักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียน
ที่จะมีขึ้นวันที่ 31 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยไม่เคยมีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด มีแต่ GT 200 ที่ใช้การไม่ได้ โดยทั้ง 2
เครื่องที่จะส่งมอบนี้ เคยทดสอบที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว
มีรัศมีตรวจระเบิด TNT ครึ่งปอนด์ ในระยะ 8 เมตร หากปริมาณ 1 กรัม
ใช้เวลาตรวจจับประมาณ 30 วินาที โดยวันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ให้นำระเบิด TNT
เข้ามาในรัฐสภา แต่ปรากฏว่าเครื่องตรวจในสภาไม่สามารถตรวจพบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีม EOD ได้นำระเบิดเข้าไปในห้องทำงานฝ่ายค้านอิสระ ซึ่งอยู่ใจกลางตรงฐานรากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หมายความว่าในอนาคต หากไม่มีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดที่มีประสิทธิภาพ ใครก็ได้สามารถนำระเบิดมาระเบิดใต้ฐานห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เลย นอกจากนี้ยังทราบข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่า มีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้เวลานี้ประมาณ 100 กว่าคน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก
ทั้งนี้ เครื่องตรวจระเบิดแบบมือถือพกพานั้น ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายยี่ห้อ เช่น เครื่อง FIDO แต่การตรวจต้องใช้จ่อชิด ๆ กับวัตถุต้องสงสัย การอ้างว่าสามารถตรวจได้ไกลถึง 8 เมตร จึงไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากนี้อาจจะต้องลองเช็กว่ายี่ห้อที่ใช้งานอยู่นั้น เป็นยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน หรือจะเป็นของลวงโลกแบบเครื่อง GT 200
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีม EOD ได้นำระเบิดเข้าไปในห้องทำงานฝ่ายค้านอิสระ ซึ่งอยู่ใจกลางตรงฐานรากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หมายความว่าในอนาคต หากไม่มีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดที่มีประสิทธิภาพ ใครก็ได้สามารถนำระเบิดมาระเบิดใต้ฐานห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เลย นอกจากนี้ยังทราบข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่า มีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้เวลานี้ประมาณ 100 กว่าคน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก
ขณะเดียวกันทาง รศ. ดร.เจษฎา
เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้โพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวผ่าน เพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" ว่า เท่าที่ตรวจเบื้องต้น เครื่องตรวจสอบระเบิดดังกล่าวน่าจะใช้งานได้
แต่ต้องตรวจแบบจิ้มกับวัตถุต้องสงสัย และตรวจวิเคราะห์
ไม่ใช่หาระยะห่างไกลถึง 8 เมตร อย่างที่นายมงคลกิตติ์ระบุ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้การตรวจหาระเบิดครั้งนี้ไม่พบ
น่าจะเกิดจากกล่องดังกล่าวปิดมิดชิดกว่าเครื่องตรวจแบบพกพาจะสามารถวัดค่าพบก็เป็นได้
ทั้งนี้ เครื่องตรวจระเบิดแบบมือถือพกพานั้น ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายยี่ห้อ เช่น เครื่อง FIDO แต่การตรวจต้องใช้จ่อชิด ๆ กับวัตถุต้องสงสัย การอ้างว่าสามารถตรวจได้ไกลถึง 8 เมตร จึงไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากนี้อาจจะต้องลองเช็กว่ายี่ห้อที่ใช้งานอยู่นั้น เป็นยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน หรือจะเป็นของลวงโลกแบบเครื่อง GT 200
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์