นักศึกษาสาวยันถูกข่มขืนจริง แต่จำไม่ได้ว่าคนทำกี่คน ด้านพี่สาวคนก่อเหตุ เชื่อน้องไม่ได้ทำ ยันให้น้องสู้คดี โต้ช่องคลอดเหยื่อฉีกขาด อาจเพราะสาเหตุอื่น
จากกรณีนักศึกษาสาวมึนเมา ถูกผู้ชาย 4 คน อุ้มขึ้นห้องไปรุมโทรม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้แล้ว แต่ให้ประกันตัวไปแล้ว 2 ราย โดยพี่ชายของเหยื่อเปิดเผยว่า แค้นใจมาก เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ทางผู้ต้องหาและครอบครัวไม่เคยมาขอโทษใด ๆ ด้านผลการตรวจร่างกายว่าถูกข่มขืนหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ 1 เดือน
อ่านข่าว
- พี่ชายลั่น น้องสาวเหมือนผ้าขาว อาจหลงผิด แต่ใช่ว่าใครจะมาฉวยโอกาสกระทำชำเรา
- ศาลให้ประกันตัว 2 โจ๋รุมโทรมหญิง วงเงิน 3.5 แสน - อีก 2 หน่อไร้เงาญาติ ต้องนอนคุก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายโต๋ พี่ชายหญิงสาวผู้เสียหาย ได้มาสังเกตการณ์ด้วยขณะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขึ้นรถออกจากไปสน.ดินแดง พร้อมตะโกนด่าผู้ต้องหา
นายโต๋เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ก่อนที่น้องสาวตนจะถูกล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศนั้น น้องสาวตนไปสังสรรค์ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งหลังย่านมหาวิทยาลัยหอการค้า โดยมีการสั่งเหล้ามา 1 ขวด และดื่มกัน 9 คน ซึ่งในขณะนั้น น้องสาวยังไม่เมา ต่อมา นายเติ้ลอาสาพาน้องสาวตนไปดื่มต่อที่ร้านเหล้าแห่งที่ 2 ย่านซอยรางน้ำ จากนั้นคลิปวงจรปิดเผยให้เห็นว่าน้องสาวตนดูไร้เรี่ยวแรง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับแล้วว่ามีการถอดเสื้อผ้า และลวนลาม เช่น การใช้ลิ้นและนิ้ว ส่วนเรื่องการสอดใส่อวัยวะเพศนั้นต้องรอดูผลทางการแพทย์ แต่ตนยังมีหลักฐานที่สามารถมัดตัวผู้ต้องหาได้ เพราะตนมั่นใจว่าผู้ต้องหาทำมากกว่าการลวนลามตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ น้องสาวตนระบุว่าช่วงก่อเหตุน้องตนมีสติ แต่ไม่มีเรี่ยวแรง ขณะนี้สภาพจิตใจน้องค่อนข้างแย่ แต่ครอบครัวก็ให้กำลังใจ และน้องค่อนข้างรู้สึกกลัวเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีขั้นต่อไป เช่น การชี้ตัวผู้ต้องหา กลัวว่าจะชี้ผิด หรือให้การผิด โดยพยายามบอกน้องสาวให้ตั้งสติก่อน ถ้ายังไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งพูดถ้าไม่แน่ใจ และอย่าให้คำกำกวม ตอนนี้น้องกลัวเพราะรู้สึกเหมือนถูกกดดัน แต่จิตใจก็ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
นอกจากนี้้ น้องสาวตนยังเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาสนุกสนานกันมาก เหมือนทำกันเป็นเรื่องปกติ และตนได้ข้อมูลมาว่าทั้ง 4 คนไม่ได้ก่อเหตุครั้งแรก ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ถูกกระทำแต่ไม่กล้าออกมาพูด ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และพอวันนี้หลังจากเห็นว่าผู้ก่อเหตุถูกฝากขัง นับเป็นวันแรกที่ตนนอนหลับลง และตนได้สาปแช่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า "ขอให้ไปตายในคุก" เพราะผู้ต้องหาเหล่านี้เหมือนเดนนรก
แต่เมื่อมาถึงที่ร้าน ผู้เสียไม่ได้เปิดขวดเหล้าดื่ม เพราะจังหวะนั้น นายเติ้ล หนึ่งในคนก่อเหตุ แวะมารับ ผู้เสียหายจึงถือเหล้าขวดดังกล่าวไปด้วย คาดว่าอาจจะเอาไปดื่มต่อกับนายเติ้ลที่ร้านที่สอง ตนยืนยันว่ากลุ่มผู้ต้องหา คือ นายเติ้ล นายมิว นายโอม และนายพีท เคยมาที่ร้าน แต่ไม่ใช่ลูกค้าประจำ
ด้านนายแจ็ค (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า ตนพยายามออกไปตามหาเพื่อน และขึ้นไปยังห้องพักผู้เสียหาย แต่ประตูเข้าไปไม่ได้ เพราะมีโซ่คล้องจากด้านใน แต่ได้เปิดแค่แง้ม ๆ ตนมองเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ว่ามีผู้ชายขึ้นไปคร่อมทับร่างผู้เสียหาย เหมือนกำลังจะถอดเสื้อ
ตนจึงรีบไปข้างล่างเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ระหว่างที่กลับขึ้นมาก็สวนทางกับ 4 ผู้ต้องหา โดยทั้ง 4 คน ใช้เวลาอยู่ในตึกประมาณ 30 นาที ซึ่งตอนสวนกันนั้น ตนเองยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มคนก่อเหตุ
นายแจ็ต กล่าวอีกว่า เมื่อเปิดห้องเข้าได้ได้ ก็พบว่าเพื่อนนอนหมดสติ และให้เพื่อนผู้หญิงเข้าไปช่วยตรวจดู พบว่าเสื้อตัวที่ใส่ไปร้านเหล้า เป็นเสื้อคนละตัวกับที่พบนอนใส่อยู่ เสื้อถูกเปลี่ยนออกไป ไม่สวมกางเกงใน เสื้อชั้นในไม่ได้ติดตะขอ
แล้วยังพบกางเกงบ็อกเซอร์ตกอยู่ในห้อง กางเกงตัวนี้ไซส์ใหญ่ สันนิษฐานว่าจะเป็นกางเกงของนายโอม หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหา เพราะเป็นคนตัวใหญ่สุด และในระหว่าง 30 นาทีที่ตนออกไปตามเพื่อนผู้หญิง ตนเชื่อว่าทั้ง 4 คน น่าจะทำอะไรบางอย่างไปแล้ว
นอกจากนี้แล้ว เพื่อนผู้หญิงที่เข้าไปดูผู้เสียหาย พยายามปลุกผู้เสียหายให้ตื่นขึ้นมา จนพอมาสติบ้าง และได้อัดคลิปเสียงสนทนาไว้ ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยผู้เสียหายเล่าว่าถูกกระทำอย่างว่าจริง แต่จำไม่ได้ว่าทำกี่คน
ด้านพ่อนายมิวและพี่สาวของนายมิว หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่าทั้งน้ำตาว่าตนยังไม่ได้ประกันตัวนายมิวออกมา เนื่องจากไม่มีเงิน หลังจากนี้จะหายืมเงินญาติเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัวต่อไป โดยพี่สาวนายมิว ร่ำไห้กล่าวว่า ตนเสียใจที่ไม่มีเงินพอจะประกันตัวน้องชาย และตนบอกน้องชายให้สู้คดี เพราะตนเชื่อว่าน้องไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหา น้องชายก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ
พ่อ และ พี่สาวของนายมิว ตอนนี้ต้องรอดูหลักฐานของอีกฝ่าย เพราะการข่มขืนต้องมีหลักฐานที่มากกว่าแค่การตรวจอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วพบว่ามีการฉีกขาด เพราะเท่าที่ศึกษามา อวัยวะเพศฉีกขาดนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเกิดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไปกระเทือนถึงบริเวณดังกล่าว และต้องตรวจไปถึงดีเอ็นเอและอสุจิของฝ่ายชายด้วย
ส่วนคำถามที่ว่าถ้าน้องชายและเพื่อนไม่ได้ข่มขืน แล้วไปกระทำอนาจารเหยื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ หรือไม่ พี่สาวนายมิวกล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าไม่มีการรุมโทรม
