เพจดังเผย สื่อญี่ปุ่นตีข่าว นักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่นติดไวรัสซิกา หลังไปเที่ยวประเทศไทย เผยเกิดจากการยุงกัด ล่าสุดหญิงสาวหายดีแล้ว
โดยเมื่อหญิงสาวกลับถึงบ้านก็มีอาการผื่นขึ้น และได้รับการวินิจฉัยว่า ได้ติดเชื้อไวรัสซิกา ตอนนี้เธอได้รักษาหายแล้ว ทางการเชื่อว่าเชื้อดังกล่าวไม่น่าจะยังแพร่กระจายไปให้คนอื่น และทางการได้ขอให้ประชาชนระวัง อย่าให้ยุงกัดเมื่อเดินทางไปยังประเทศที่ระบาด หรือเสี่ยงต่อโรคนี้
อนึ่ง โรคไข้ซิกาเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (Flavivirus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยุงที่เป็นพาหะนำโรคไข้ซิกาเป็นชนิดเดียวกันกับยุงที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือชิกุนคุนยา (Chikungunya) และไข้เหลือง ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้ซิกาโดยเฉพาะ การรักษาทำได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาตามอาการ เช่น ใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้หรือบรรเทาอาการปวด
ทั้งนี้
ห้ามรับประทานยาแอสไพรินหรือยากลุ่มลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
(NSAIDs) เนื่องจากยาบางชนิดเป็นอันตรายสำหรับโรคนี้
โดยอาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น
เมื่อวัน 2 พฤศจิกายน 2562 เพจ ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น ได้แชร์ข่าวซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นขณะนี้ หลังหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุ 30 ปี จากเมืองคาเกคาวะ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสซิก้า (Zika)
หลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ในช่วงเดือนตุลาคม 2562
โดยเมื่อหญิงสาวกลับถึงบ้านก็มีอาการผื่นขึ้น และได้รับการวินิจฉัยว่า ได้ติดเชื้อไวรัสซิกา ตอนนี้เธอได้รักษาหายแล้ว ทางการเชื่อว่าเชื้อดังกล่าวไม่น่าจะยังแพร่กระจายไปให้คนอื่น และทางการได้ขอให้ประชาชนระวัง อย่าให้ยุงกัดเมื่อเดินทางไปยังประเทศที่ระบาด หรือเสี่ยงต่อโรคนี้
อนึ่ง โรคไข้ซิกาเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (Flavivirus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยุงที่เป็นพาหะนำโรคไข้ซิกาเป็นชนิดเดียวกันกับยุงที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือชิกุนคุนยา (Chikungunya) และไข้เหลือง ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้ซิกาโดยเฉพาะ การรักษาทำได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาตามอาการ เช่น ใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้หรือบรรเทาอาการปวด
การป้องกันคือพยายามระมัดระวังไม่ให้ยุงกัด และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
หากพบว่าตนเองมีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ
หรืออาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์
ควรรีบปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษาทันที
และหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด
แต่หากจำเป็นต้องเดินทาง ควรปรึกษาแพทย์และป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด