เปิดตำนาน ร้านอาหารไทยเก่าแก่ โรงอาหารฝีมือแม่ ของนักเรียนไทยในกวางซีจ้วง สร้างเอกลักษณ์ด้วยความเป็นไทย รักษารสชาติแบบดั้งเดิม จากร้านคูหาเดียว สู่ร้านใหญ่ 5 สาขา เผยแพร่ความเป็นไทยสู่ท้องถิ่น
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 สำนักข่าวซินหัว มีรายงานเรื่องราวของร้านอาหารไทยเก่าแก่ ในนครหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองกวางซีจ้วง ประเทศจีน ซึ่งได้ขยับขยายจากร้านอาหารเล็ก ๆ ในห้องแถวหนึ่งคูหา สู่ร้านอาหารใหญ่ 5 สาขา กลายเป็นร้านอาหารชื่อดังที่มีเอกลักษณ์ จากการตกแต่งภายใต้แนวคิด "ความเป็นไทย"
กวางซีจ้วงถือเป็นเมืองใหญ่ซึ่งเชื่อมโยงอาเซียนทั้งทางบกและทางทะเล อีกทั้งนครหนานหนิงก็ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมจีน-อาเซียน เอ็กซ์โป ทุกปี เป็นจุดที่โอบรับอาเซียนสไตล์อย่างคึกคัก โดยเฉพาะความเป็นไทย ที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ชาติอื่น
ด้วยเหตุนี้ จ้าวฮวน อาจารย์สอนภาษาไทย ซึ่งเคยมาศึกษาอยู่ที่ไทยนานถึง 10 ปี จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหาร "สบาย สบาย" แห่งแรกในปี 2549 ใกล้กับโรงเรียนหัวเฉียว ซึ่งมีนักเรียนไทยมาศึกษาอยู่ไม่น้อย และกลายเป็นโรงอาหารฝีมือแม่ ของนักเรียนไทยในกวางซีจ้วง
"เดิมทีเราเป็นแค่ร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนหัวเฉียว ก่อนจะขยับขยายเป็นร้านใหญ่ที่มีหลายสาขา แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือความตั้งใจในการทำอาหาร" จ้าวฮวน บอกเล่าขณะแนะนำร้านสาขาแห่งที่ 5
จ้าวฮวน เผยว่า ในอดีตมีเพื่อนคนไทยหลายคนที่ส่งลูกหลานมาเรียนต่อที่แห่งนี้ แต่เด็ก ๆ ไม่ชอบอาหารของโรงเรียน พวกเขาเลี่ยงไปกินก๋วยเตี๋ยวหอยขมที่รสชาติจัดจ้านเหมือนอาหารไทยแทน ดังนั้นหลังจากเจรจากับทางโรงเรียนอยู่หลายรอบ ในที่สุด จ้าวฮวน ก็สามารถเปิดร้าน "สบาย สบาย" ขึ้นมาได้ โดยจุดที่สร้างความนิยมแรกเริ่ม คือการมีเหล่าพ่อแม่ของเด็กไทยบางคน เข้ามาขอใช้ครัวทำอาหารให้ลูกรับประทาน
การทำอาหารไทยต้องใช้วัตถุดิบหรือเครื่องปรุงหลากหลาย แต่ของพวกนั้นหายากมากตอนเปิดร้านใหม่ ๆ เพราะไม่มีซัพพลายเออร์ วัตถุดิบบางอย่างต้องหาซื้อจากร้านในท้องถิ่น ส่วนวัตถุดิบหลังอย่างผงกะหรี่ น้ำจิ้มไก่ ต้องพึ่งพาเพื่อนหรือญาตินำมาจากไทย แต่ด้วยอานิสงส์ความสำเร็จจากงานมหกรรมจีน-อาเซียน ทำให้เหล่า ซัพพลายเออร์นำวัตถุดิบจากไทยเข้ามาบุกเบิกตลาดจีน จนร้านอาหาร สบาย สบาย สามารถสรรหาวัตถุดิบได้อย่างสะดวกสบายในตอนนี้
ด้าน สุ่ยเกอ พ่อครัวใหญ่วัย 48 ปี ซึ่งเคยเป็นเชฟร้านอาหารในไทยเมื่อ 4 ปีก่อน ยังได้สร้างสรรค์เมนูคาวหวานขึ้นมากมาย ซึ่งเขาบอกว่ารสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ที่โดดเด่นของอาหารไทย มาจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่าง มะขาม พริกขี้หนู พริกไทย น้ำตาลมะพร้าว ซึ่งเขาเลือกจะคงรสชาติดั้งเดิมไว้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตามความชอบของคนจีน
ทั้งนี้ ร้านอาหารไทยในหนานหนิงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังค่อย ๆ แทรกซึมวัฒนธรรมไทยสู่ท้องถิ่น เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของคนพื้นถิ่น ที่อยากลิ้มรสอาหารไทย รวมถึงความต้องการของคนไทยที่โยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่ด้วย
"สบาย สบาย ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่ยังเป็น มุมไทย และ มุมอาเซียน ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งการสื่อสารพูดคุย ที่นักเรียนชาวจีนและชาวไทยสาสมารถฝึกฝนภาษาร่วมกัน และผู้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยอีกด้วย" จ้าวฮวน เผย
ภาพจาก xinhuathai.com
อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
xinhuathai.com