ตำรวจออกหมายจับหัวหน้า รปภ. ข่มขืนสาววัย 17 หลังจ้างให้มาช่วยเลี้ยงลูก

  




        น.ส.เอ๋ เล่าว่า เนื่องจากฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน เมื่อเรียนจบ จึงไม่ได้เรียนต่อและพี่สาวได้ชักชวนให้มาทำงานที่บริษัท รปภ. ด้วยกัน แต่ต้องออกไปประจำหน่วยข้างนอกคนละแห่ง ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายเอ็ม ต้องไปอบรมพนักงานที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก และต้องนำลูกชาย อายุขวบเศษไปด้วย จึงให้ตนไปช่วยเลี้ยงลูกโดยจะให้เงินเป็นรายได้พิเศษ ระหว่างถูกพักงานเป็นเวลา 6 วัน เนื่องจากเข้างานสาย เมื่อไปถึง อ.องครักษ์ นายจ้างเปิดห้องพัก 1 ห้องและให้ตนเองอยู่กับลูกชาย ก่อนที่นายจ้างจะกลับมาและดูลูกชายจนหลับไป ระหว่างนั้นตนเห็นว่านายเอ็มมีท่าทีพิรุธเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงได้โทรศัพท์คุยกับเพื่อนชายที่ จ.อุตรดิตถ์ แต่นายเอ็ม ไม่รู้ว่าตนเองโทรศัพท์อยู่ ก่อนจะคว้ามือถือโยนไปบนที่นอนและใช้กำลังปลุกปล้ำตนเอง หลังข่มขืนเสร็จได้ห้ามไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร และได้ขับรถพามาปล่อยทิ้งไว้ใต้ทางด่วนพระราม 4

        ทว่าขณะเกิดเหตุเพื่อนชายที่คุยโทรศัพท์อยู่กับตนเอง ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือและเสียงพูดของนายเอ็มตลอดเวลา จึงได้โทรศัพท์บอกแม่และพี่สาวว่าตนเองไม่ปลอดภัย ก่อนที่ต่อมาจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้างคนดังกล่าว

        น.ส.แอน พี่สาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุได้เตือนน้องสาวตลอดว่าอย่าไปไหนกับนายเอ็มสองต่อสอง เพราะทราบว่ามีนิสัยชอบลวนลามลูกน้องสาว ๆ มาโดยตลอด และหลังเกิดเหตุกับน้องสาวตนเอง นายเอ็มได้พยายามยื่นข้อเสนอจะให้เงินจำนวนมากหลักล้านก็ยอม เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ขอให้ถอนแจ้งความ และยังข่มขู่ว่า ตำรวจทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ตนเองและน้องสาวยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ยังเชื่อด้วยว่ามีผู้เสียหายที่เป็นลูกจ้างอีกหลายรายถูกนายเอ็ม ล่อลวงและกระทำอนาจารอีก แต่ไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย

        ผู้กำกับการตำรวจนครบาลปทุมวัน กล่าวว่า หลังรับแจ้งความพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานและขอศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับนายจ้างคนดังกล่าวแล้ว และศาลได้ออกหมายจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และข้อหาอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดติดตามจับกุมตัว เบื้องต้น เชื่อว่าจับกุมไม่ยาก เพราะตำรวจมีข้อมูล รู้ชื่อและที่อยู่ของผู้ต้องหาหมดแล้ว

        ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ในทางคดีให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา หลังจากนี้จะประสานกับกระทรวงแรงงานเรื่องค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ และพาผู้เสียหายเข้ารับการช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมเพื่อรับเงินช่วยเหลืออีกทางหนึ่งต่อไป

        นางปวีณา กล่าวว่า ปัจจุบันมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและผู้หญิงเกือบทุกวัน ซึ่งบางรายเป็นคนรู้จักและคนในครอบครัวเดียวกัน ทั้งทีปรากฎเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว จึงฝากเตือนไปยังประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครองให้ระมัดระมัดระวังไม่ควรนำลูกไปฝากไว้กับคนอื่น หรือหากมีเบาะแสขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบป้องกันการเกิดเหตุ

สำนักข่าว INN