ปารีณา ไกรคุปต์ ยอมรับครอบครองที่ป่า 1,700 ไร่ ยันเข้าไปใช้ประโยชน์ ไม่ใช่บุกรุก เสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า 10 ปี และเสียทุกครั้งที่เขาเรียกเก็บ ทำอย่างถูกต้อง
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เดลินิวส์ รายงานว่า น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 กว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ผ่าน "รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ" ว่า ที่ดินดังกล่าวได้มานานมากแล้ว เป็นที่ดินที่รัฐบาลโดยกรมป่าไม้ อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้ ทำกินมานานแล้ว และได้เสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า 10 ปี และเสียทุกครั้งที่เขาเรียกเก็บ ทำอย่างถูกต้อง เมื่อถามว่าที่เป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ได้รับการจัดสรรจากกรมป่าไม้ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ไม่ได้รับการจัดสรร คือเราสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แต่เราจะต้องเสียภาษี
เมื่อถามว่าใครอนุญาตให้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า มันเป็นกฎหมาย คือใครก็เข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แต่จะต้องเสียภาษี และเป็นการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ซึ่งครอบครองมานานตั้งแต่ยังไม่ได้เลี้ยงไก่ ก็มีการปลูกอ้อย ปลูกส้ม เลี้ยงหมู ทำมาหลายอย่างหลายแบบมานาน
เมื่อถามว่านายเรืองไกรไปค้นข้อมูลว่ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 แต่ไม่ได้มีการระบุถึงพื้นที่ 1,700 ไร่นี้เลย เป็นการได้มาหลังปี 2557 หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตนไม่ได้ได้มาเพราะเป็นที่ของหลวง แต่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ได้ ซึ่งพื้นที่ ภบท.5 มีเยอะมากทั่วประเทศไทย และมีเกษตรกรจำนวนมากที่ทำลักษณะเดียวกับตน คือครอบครองทำกิน เสียภาษี แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ เป็นการจ่ายภาษีคล้ายภาษีดอกหญ้า ตนจึงไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน เพราะที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ของตน
นอกจากนี้ที่ดินดังกล่าวก็ประเมินราคาลำบากเพราะเป็นป่า แต่ ป.ป.ช. ขอความร่วมมือว่าถ้ามีที่ดินประเภทของกรมป่าไม้ที่เข้าไปทำกินอยู่ก็ให้แจ้งด้วย ตนจึงได้แจ้งที่ดินแปลงดังกล่าวไป แต่การประเมินราคาไม่ได้เข้าไปอยู่ในการประเมินรายการทรัพย์สินของตน และมี ส.ส. หลายคนที่ต้องแจ้งในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นการเข้าไปทำประโยชน์ ไม่ใช่การบุกรุก
ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีคนส่งคลิปทั้งเสียงและภาพที่ น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์มาให้ตนเยอะมาก ซึ่งตนได้สั่งการไปยังกรมป่าไม้ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ สำหรับตนมี 2 มุมมอง คือ ในเรื่องของการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน อาจจะมีคนแนะว่าหากแจ้งบัญชีทรัพย์สิน น.ส.ปารีณา ได้จ่ายภาษีส่วนไหนก็ให้แจ้งส่วนนั้นด้วย เพราะถ้าไม่แจ้งก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกประการคือ เรื่องของการครอบครองพื้นที่ป่า ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าอยู่ในระยะเวลาไหนอย่างไร และต้องไปดูที่ต้นตอการได้มา ถ้ามองในแง่หนึ่งคือ อาจจะมีการเสียภาษี ภทบ.5 มาก่อนหน้านี้ และเสียไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการตรวจสอบใด ๆ และหากเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วว่าที่ดินดังกล่าว อยู่ในแนวเขตป่าพิกัดบริเวณใด เพื่อหาหลักฐานยืนยันว่า น.ส.ปารีณา ครอบครองพื้นที่ 1,700 ไร่ จริงหรือไม่ จากนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายเพิ่มเติม เพราะว่าบริเวณดังกล่าวกรมป่าไม้เป็นแนวป่าที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. ด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นที่ดิน ส.ป.ก. น.ส.ปารีณา ก็ไม่น่าจะมีคุณสมบัติในการครอบครอง โดยเชื่อว่าน่าจะได้ความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งว่า การครอบครองที่ดิน ภทบ.5 ถือเป็นการครอบครองที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิใด ๆ รองรับ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 (30) ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำการด้วประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น
โดยกรณีการครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และกรณีเขายายเที่ยง ของ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ที่ครอบครองที่ดินมือเปล่าไร้เอกสารสิทธิ ที่สำคัญสิ่งที่ น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวเหมือนเป็นการรับสารภาพว่าบุกรุกที่ป่า หากมีหลักฐานยืนยันในเรื่องพิกัดที่แน่ชัดก็ถือว่าจบและสามารถดำเนินคดีได้เลย พื้นที่ ภบท.5 นั้น โดยหลักไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง และไม่สามารถซื้อ-ขายได้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎมาแล้วว่าไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับเก็บภาษีบำรุงท้องที่ เพราะเป็นที่ดินผิดกฎหมาย และเป็นความเข้าใจผิดของชาวบ้านว่าเสียภาษีดอกหญ้าแล้วจะเป็นการทำตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าใครอนุญาตให้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า มันเป็นกฎหมาย คือใครก็เข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แต่จะต้องเสียภาษี และเป็นการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ซึ่งครอบครองมานานตั้งแต่ยังไม่ได้เลี้ยงไก่ ก็มีการปลูกอ้อย ปลูกส้ม เลี้ยงหมู ทำมาหลายอย่างหลายแบบมานาน
เมื่อถามว่านายเรืองไกรไปค้นข้อมูลว่ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 แต่ไม่ได้มีการระบุถึงพื้นที่ 1,700 ไร่นี้เลย เป็นการได้มาหลังปี 2557 หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตนไม่ได้ได้มาเพราะเป็นที่ของหลวง แต่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ได้ ซึ่งพื้นที่ ภบท.5 มีเยอะมากทั่วประเทศไทย และมีเกษตรกรจำนวนมากที่ทำลักษณะเดียวกับตน คือครอบครองทำกิน เสียภาษี แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ เป็นการจ่ายภาษีคล้ายภาษีดอกหญ้า ตนจึงไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน เพราะที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ของตน
ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีคนส่งคลิปทั้งเสียงและภาพที่ น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์มาให้ตนเยอะมาก ซึ่งตนได้สั่งการไปยังกรมป่าไม้ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ สำหรับตนมี 2 มุมมอง คือ ในเรื่องของการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน อาจจะมีคนแนะว่าหากแจ้งบัญชีทรัพย์สิน น.ส.ปารีณา ได้จ่ายภาษีส่วนไหนก็ให้แจ้งส่วนนั้นด้วย เพราะถ้าไม่แจ้งก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกประการคือ เรื่องของการครอบครองพื้นที่ป่า ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าอยู่ในระยะเวลาไหนอย่างไร และต้องไปดูที่ต้นตอการได้มา ถ้ามองในแง่หนึ่งคือ อาจจะมีการเสียภาษี ภทบ.5 มาก่อนหน้านี้ และเสียไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการตรวจสอบใด ๆ และหากเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วว่าที่ดินดังกล่าว อยู่ในแนวเขตป่าพิกัดบริเวณใด เพื่อหาหลักฐานยืนยันว่า น.ส.ปารีณา ครอบครองพื้นที่ 1,700 ไร่ จริงหรือไม่ จากนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายเพิ่มเติม เพราะว่าบริเวณดังกล่าวกรมป่าไม้เป็นแนวป่าที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. ด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นที่ดิน ส.ป.ก. น.ส.ปารีณา ก็ไม่น่าจะมีคุณสมบัติในการครอบครอง โดยเชื่อว่าน่าจะได้ความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งว่า การครอบครองที่ดิน ภทบ.5 ถือเป็นการครอบครองที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิใด ๆ รองรับ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 (30) ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำการด้วประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น
โดยกรณีการครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และกรณีเขายายเที่ยง ของ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ที่ครอบครองที่ดินมือเปล่าไร้เอกสารสิทธิ ที่สำคัญสิ่งที่ น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวเหมือนเป็นการรับสารภาพว่าบุกรุกที่ป่า หากมีหลักฐานยืนยันในเรื่องพิกัดที่แน่ชัดก็ถือว่าจบและสามารถดำเนินคดีได้เลย พื้นที่ ภบท.5 นั้น โดยหลักไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง และไม่สามารถซื้อ-ขายได้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎมาแล้วว่าไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับเก็บภาษีบำรุงท้องที่ เพราะเป็นที่ดินผิดกฎหมาย และเป็นความเข้าใจผิดของชาวบ้านว่าเสียภาษีดอกหญ้าแล้วจะเป็นการทำตามกฎหมาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
