ชาวประมง จ.ชุมพร พบหมึกสายวงน้ำเงิน เผยมีพิษแรงกว่างูเห่า 20 เท่า หากโดนกัดอาจถึงตาย ดร.ธรณ์ แนะห้ามจับ ห้ามนำมาทำอาหาร เพราะพิษไม่สลายแม้โดนความร้อน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เป็นภาพของ หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง (blue-ringed octopus) ที่มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า ผู้ถูกกัดอาจจะตายได้ภายใน 2-3 นาที ซึ่ง ดร.ธรณ์ ระบุว่า หมึกชนิดนี้ มีพิษร้ายแรงต้องระมัดระวัง ห้ามจับ ห้ามนำมาทำอาหาร เพราะพิษของหมึกชนิดนี้ไม่สลายแม้โดนความร้อน ซึ่งชาวประมงพบระหว่างออกไปเก็บลอบหมึกสายบริเวณดอนหอยนอกเกาะสังข์ หน้าอ่าวบางเบิด จ.ชุมพร
อย่างไรก็ตาม หมึกชนิดนี้มีรายงานว่าเคยพบในทะเลไทยบ้างแล้ว โดยเฉพาะแถว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร แต่พบได้ไม่บ่อยนัก หากเจอหมึกชนิดนี้ ไม่ต้องไปทำร้าย แค่หลีกเลี่ยงทางใครทางมันก็พอ ทั้งนี้ ยังไม่พบรายงานว่ามีคนไทยถูกหมึกชนิดนี้กัดแต่อย่างใด แต่ระวังไว้ก็ดี
![]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat
![]()
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
![]()
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
![]()
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เป็นภาพของ หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง (blue-ringed octopus) ที่มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า ผู้ถูกกัดอาจจะตายได้ภายใน 2-3 นาที ซึ่ง ดร.ธรณ์ ระบุว่า หมึกชนิดนี้ มีพิษร้ายแรงต้องระมัดระวัง ห้ามจับ ห้ามนำมาทำอาหาร เพราะพิษของหมึกชนิดนี้ไม่สลายแม้โดนความร้อน ซึ่งชาวประมงพบระหว่างออกไปเก็บลอบหมึกสายบริเวณดอนหอยนอกเกาะสังข์ หน้าอ่าวบางเบิด จ.ชุมพร
อย่างไรก็ตาม หมึกชนิดนี้มีรายงานว่าเคยพบในทะเลไทยบ้างแล้ว โดยเฉพาะแถว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร แต่พบได้ไม่บ่อยนัก หากเจอหมึกชนิดนี้ ไม่ต้องไปทำร้าย แค่หลีกเลี่ยงทางใครทางมันก็พอ ทั้งนี้ ยังไม่พบรายงานว่ามีคนไทยถูกหมึกชนิดนี้กัดแต่อย่างใด แต่ระวังไว้ก็ดี
.jpg)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat
.jpg)
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
.jpg)
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
.jpg)
ภาพจาก นายธีรยุทธ เจียรนัย
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat