สลด ทารกวัย 2 สัปดาห์ เสียชีวิตในคุก อึ้งพยาบาลปฏิเสธช่วย อ้างไม่ใช่นักโทษ

 
             สลด ทารกวัย 2 สัปดาห์ เสียชีวิตในเรือนจำ หลังเจ้าหน้าที่ - พยาบาลของเรือนจำ ปฏิเสธไม่ยอมช่วยเหลือ อ้างไม่ใช่ผู้ต้องขัง ทำแม่ ๆ ในเรือนจำช็อกหนัก แม้ช่วยเด็กกันเองก็ไม่อาจยื้อชีวิตได้

             วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานกรณีหนึ่งในข่าวฉาวที่สุดเกี่ยวกับเรือนจำในออสเตรเลีย ภายหลังจากที่ผู้ต้องขังออกมาแฉการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ Dame Phyllis Frost Centre ที่ปฏิเสธไม่ยอมให้การช่วยเหลือใด ๆ แก่เด็กทารกอายุเพียง 2 สัปดาห์ เพราะว่าทารกไม่ใช่ผู้ต้องขัง เด็กถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการใส่ใจนานถึง 30 นาที จนสุดท้ายเด็กน้อยก็จากโลกไปอย่างน่าเศร้า

             เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2561 ภายในส่วนแม่และเด็กของเรือนจำดังกล่าว ที่อนุญาตให้เด็กสามารถใช้ชีวิตอยู่กับแม่ในเรือนจำได้จนถึง 6 ขวบ โดยเหล่าผู้ต้องขังให้ข้อมูลกับสื่อว่า ผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นขึ้นมากลางดึก เมื่อได้ยินเสียงผู้ต้องขังสาวชาวเวียดนามกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง โดยมีลูกสาวอายุ 14 วันนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟา

             แม่เด็กพยายามร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะที่ผู้ต้องขังอีกคนพยายามช่วยเด็กคนนี้ด้วยการทำ CPR แม้จะไม่ได้รับการฝึกฝนมาก็ตาม และมีการเรียกการ์ดประจำเรือนจำมา แต่กลับไม่มีใครโผล่มาจนเวลาผ่านไปถึง 15 นาที
             ในตอนที่การ์ดมาถึงก็มีแจ้งตามตัวพยาบาลประจำเรือนจำมาทันที แต่ตัวการ์ดเองกลับไม่ได้ให้การช่วยเหลือเด็กใด ๆ มากไปกว่านั้น เด็กน้อยยังต้องรออีก 15 นาทีกว่าพยาบาลจะมาถึง ซึ่งเหล่าแม่ในเรือนจำต่างก็ต้องอึ้ง เมื่อพยาบาลปฏิเสธไม่ยอมแตะต้องเด็กคนนี้ บอกเพียงว่าตัวเองไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรเพราะทารกไม่ใช่ผู้ต้องขัง

             "มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับแม่ ๆ คนอื่นที่ยังอยู่ในนั้น" คนในเรือนจำ เผยกับสื่อ

             ไม่ชัดเจนว่าตอนที่พยาบาลมาถึง ทารกได้เสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ แต่การที่พยาบาลไม่พยายามทำอะไรเพื่อช่วยเหลือเด็กเลยแม้แต่น้อย แถมยังอ้างเหตุผลดังกล่าว ก็ได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่อเหล่าแม่ที่อยู่ในสถานะผู้ต้องขัง ขณะที่เรือนจำได้ถูกปิดล็อกหลังจากนั้น 4 วันเพื่อทำการสอบสวนเรื่องการตายของเด็ก

             เนื่องจากเรือนจำที่เกิดเหตุ เป็นเรือนจำที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ทำให้แม่ที่อยู่ในเรือนจำได้รับอนุญาตให้มีคนเข้าเยี่ยมเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่สำหรับทารกนั้นได้รับอนุญาตให้มีคนมารับตัวออกจากเรือนจำวันใดก็ได้ ซึ่งพบว่ามีพ่อของเด็กจำนวนมากที่มักจะมารับตัวลูก ๆ ออกจากเรือนจำ เพื่อไปหาหมอ เพราะภายในเรือนจำมีระบบที่ล่าช้ามาก กว่าที่จะมีการรักษาพยาบาลใด ๆ

             ในขณะที่ทางราชทัณฑ์ของรัฐวิกตอเรีย ได้ออกมาเผยว่า แม่ที่ใช้ชีวิตอยู่กับลูกในเรือนจำ จะได้รับการตรวจเช็กเป็นประจำและสามารถเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เอื้อต่อด้านโภชนาการ พัฒนาการ และสุขภาพที่จำเป็นสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวแย้งว่า เนื่องจากการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ทำให้การตรวจเยี่ยมเด็กมักเป็นไปอย่างล่าช้า ไม่ตรงตามกำหนดการ นอกจากนี้การซื้ออาหารหรือแม้แต่ยาให้เด็ก ก็ยังทำได้ล่าช้า เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากทางเรือนจำก่อน ซึ่งคนที่มีอำนาจอนุมัติได้มีเพียงคนเดียว

              ด้านกระทรวงยุติธรรมและความปลอดภัยของชุมชน ปฏิเสธจะแสดงความเห็นถึงข้อกล่าวหาจำนวนมากเกี่ยวกับเรือนจำ แต่เผยว่าทางตำรวจจะมีการสอบสวนเรื่องนี้ และจะมีการจัดทำรายงานการชันสูตรต่อไป