บริษัทประกันในแอฟริกาใต้ ไม่ยอมจ่ายเงินให้ญาติผู้เสียชีวิต อ้างเอกสารมีปัญหา ยังยืนยันไม่ได้ ญาติฉุนจัด แบกศพบุกถึงสำนักงาน เอาให้เห็นชัด ๆ ว่าตายจริง
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ภายในสำนักงานของบริษัทประกันแห่งหนึ่งในจังหวัดควาซูลู นาทาล ของประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อหญิง 2 คน ได้แบกศพของลุงบุกมาเผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันถึงที่ ภายหลังพบว่าทางบริษัทประกันดังกล่าวปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้นจริง
รายงานเผยว่า ผู้ตายคือ ซิฟิโซ จัสติส โมลอนโก วัย 46 ปี ได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัท Old Mutual ซึ่งเป็นบริษัทประกันเก่าแก่ที่สุดของแอฟริกาใต้ และเป็นบริษัทใหญ่ที่มีลูกค้ากว่า 12 ล้านคน ภายหลังจากที่เขาเสียชีวิต ญาติก็ได้ยื่นเอกสารเรียกร้องสินไหมมรณกรรม หรือเงินสินไหมที่จะจ่ายให้ผู้รับผลประโยชน์ กรณีผู้ทำประกันเสียชีวิต
ทางญาติควรจะได้รับเงินสินไหมจำนวน 1,700 ปอนด์ (ราว 66,000 บาท) แต่กลับพบว่าเวลาผ่านไปนานถึง 9 วันแล้ว ทางบริษัทประกันก็ยังไม่ยอมจ่ายเงิน อ้างว่าเอกสารเคลมมีปัญหา ทำให้พิธีศพที่ควรจะจัดขึ้นกลับต้องล่าช้าออกไป ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งแก่ญาติของผู้ตาย
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ โมลอนโก และมัสฮาลี หลานสาวของผู้ตาย ตัดสินใจแบกศพของลุงมาถึงสำนักงานของ Old Mutual ให้รู้แล้วรู้รอดไป ถ้าเอกสารมีปัญหา ยืนยันไม่ได้ว่าลุงของพวกเธอจากไปแล้วจริง ๆ งั้นศพของเขาก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
"เราไม่ใช่คนรวย เราเป็นคนจน แต่พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมจ่ายสินไหมแก่เรา ทั้งที่เรายังเศร้าสะเทือนใจอยู่ด้วยซ้ำ พวกเราติดต่อทางบริษัทหลายรอบแล้ว แต่พวกเขาก็ยังติดขัดนู่นนี่ เราโกรธมากและอยากทำให้มั่นใจว่าจะสามารถเตรียมพิธีและฝังศพของลุงได้อย่างเหมาะสม เราเลยคิดว่าถ้าเอกสารไม่สามารถให้คำตอบที่ดีพอแก่บริษัทประกัน งั้นศพของลุงอาจให้คำตอบแก่พวกเขาได้" โมลอนโก เผยกับสื่อ
จากคลิปที่มีการแชร์ต่อกันบนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นหญิง 2 คน ที่นำศพของลุงออกจากสถานที่เก็บศพ ใส่ท้ายรถขับมาถึงสำนักงานประกัน ก่อนจะนำศพที่อยู่ในถุงลากเข้ามาภายในสำนักงาน ท่ามกลางสายตาหวาดผวาของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เธอจะยื่นเอกสารเคลม บัตรประชาชนของลุง และใบมรณบัตรของเขา
ในขณะที่ศพถูกวางนอนอยู่บนพื้น พวกเธอก็ได้ประกาศว่าจะไม่ยอมออกไปจากสำนักงานเด็ดขาด ถ้าทาง Old Mutual ไม่ยอมจ่ายเงินแก่พวกเธอ
ทั้งนี้ พบว่าหลังจากที่ฝ่ายจัดการของ Old Mutual สาขาดังกล่าว ได้หารือกับทางสำนักงานใหญ่อย่างเร่งด่วน ในที่สุดพวกเขาก็ยอมจ่ายเงินสินไหมแก่พวกเธอ โดยมีข้อแม้ว่าต้องนำศพกลับออกไป ซึ่งเมื่อได้รับคำสัญญาแล้ว หญิงทั้ง 2 คนจึงยินยอมนำศพขึ้นรถกลับไปยังสถานที่เก็บศพตามเดิม ท่ามกลางผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่ต่างอึ้งไปตามกัน
ขณะที่ทาง Old Mutual เผยกับสื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่สร้างความไม่สบายใจให้บริษัทอย่างมาก พวกเขามีความเห็นใจต่อครอบครัวนี้ และจะประสานกับทางครอบครัวต่อไป
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าหลังได้รับการเรียกร้องสินไหมเข้ามา ทางบริษัทได้มีการดำเนินการภายใน 8 ชั่วโมงเสมอ โดยทุกการเคลมจะได้รับการพิจารณาเป็นรายเคสไป ซึ่งพวกเขาจะต้องมีการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อหาข้อผิดพลาดมาเรียนรู้เป็นบทเรียนต่อไป
ด้านโฆษกสมาคมผู้ประกอบพิธีศพแห่งชาติของแอฟริกาใต้ ชี้ว่า เรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ แน่ และทางองค์กรจะเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับ Old Mutual เพราะการเคลื่อนย้ายศพออกจากสถานที่เก็บศพด้วยแรงโกรธของญาติผู้ตายนั้น ทำให้ไม่ได้มีการประกอบพิธีกรรมที่สมควร เมื่อเคลื่อนศพจากที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่ง วิญญาณของผู้ตายจะยังติดค้างอยู่ที่สำนักงานของ Old Mutual ดังนั้น ทางบริษัทต้องจ่ายค่าชดเชยให้ครอบคลุมการทำพิธีกรรมที่จำเป็นเหล่านี้ด้วย
