สุดท้ายสภาฯ ล่ม หลังฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ ไม่ยอมนับคะแนนใหม่ ปม กมธ.ศึกษา ม.44 องค์ประชุมเหลือเพียง 92 คน ต้องนัดประชุมใหม่ในวันถัดไป
อ่านข่าว : ฝ่ายค้านโหวตชนะ ปมศึกษาผลกระทบ ม.44 ด้านรัฐบาลไม่ยินยอม ขอนับใหม่
ล่าสุด
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายชวน หลีกภัย
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า จะต้องมีการลงมติการนับคะแนนใหม่ ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจ
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า การลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าว ล้วนเป็นประโยชน์กับรัฐบาล แต่หลังจากสภามีคะแนนห่างกัน 4 คะแนน ก็ตอบคำถามไม่ได้ว่าการนับคะแนนใหม่นั้นจำเป็นหรือไม่ หากจะใช้ข้อบังคับต้องใช้ตามความเหมาะสม ย้ำว่า สภาต้องปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่หากจะใช้คะแนนที่ห่างกัน 4-10 เสียง มาเป็นเหตุให้ต้องนับคะแนนใหม่ทุกครั้ง จึงขอความกรุณาจาก ส.ส. ฝั่งเสียงข้างมาก ไม่เช่นนั้นจะขอไม่อยู่ร่วมองค์ประชุมด้วย เพราะเท่ากับเสียงของตนเองไม่มีค่า
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ส่วนตัวไม่ต้องการใช้ระเบียบข้อบังคับข้อ 85 ในการขอนับคะแนนใหม่ ยืนยันว่า การทำงานไม่ได้ต้องการชนะคะคาน แต่หากการทำงานเป็นมติวิปรัฐบาล ก็จะดำเนินตามมติวิปรัฐบาล และมีความจำเป็นที่จะเสนอนับคะแนนใหม่ และยืนยันว่าจะเสนอขอนับคะแนนใหม่
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังยืนยันว่า ขอให้ทบทวนใหม่อีกครั้ง แต่ประธานสภาฯ ก็ยังยืนยันสั่งให้นับคะแนนใหม่ ซึ่งการนับคะแนนใหม่ตามระเบียบข้อบังคับนั้น กำหนดให้เป็นการลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล พร้อมกล่าวต่อที่ประชุมว่า ขออภัยเพื่อนสมาชิกที่ไม่ถูกใจด้วย
ทั้งนี้ ในการประชุมสภานั้นต้องมีองค์ประชุมถึง 250 คน ถึงสามารถลงมติได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายค้านทยอยออกจากห้อง ก็เหลือเพียง 92 คนเท่านั้น ทางประธานสภาฯ จึงได้สั่งปิดการประชุมแล้วประชุมต่อในวันถัดไป
จากกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลโหวตแพ้ฝ่ายค้านในสภา ประเด็นตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ
ม.44 ซึ่งทางรัฐบาลนั้นก็ไม่ยอมรับผล ได้ขอให้นับคะแนนใหม่
เนื่องจากเชื่อว่ามีข้อผิดพลาด ทำให้มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด
อ่านข่าว : ฝ่ายค้านโหวตชนะ ปมศึกษาผลกระทบ ม.44 ด้านรัฐบาลไม่ยินยอม ขอนับใหม่
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า การลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าว ล้วนเป็นประโยชน์กับรัฐบาล แต่หลังจากสภามีคะแนนห่างกัน 4 คะแนน ก็ตอบคำถามไม่ได้ว่าการนับคะแนนใหม่นั้นจำเป็นหรือไม่ หากจะใช้ข้อบังคับต้องใช้ตามความเหมาะสม ย้ำว่า สภาต้องปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่หากจะใช้คะแนนที่ห่างกัน 4-10 เสียง มาเป็นเหตุให้ต้องนับคะแนนใหม่ทุกครั้ง จึงขอความกรุณาจาก ส.ส. ฝั่งเสียงข้างมาก ไม่เช่นนั้นจะขอไม่อยู่ร่วมองค์ประชุมด้วย เพราะเท่ากับเสียงของตนเองไม่มีค่า
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ส่วนตัวไม่ต้องการใช้ระเบียบข้อบังคับข้อ 85 ในการขอนับคะแนนใหม่ ยืนยันว่า การทำงานไม่ได้ต้องการชนะคะคาน แต่หากการทำงานเป็นมติวิปรัฐบาล ก็จะดำเนินตามมติวิปรัฐบาล และมีความจำเป็นที่จะเสนอนับคะแนนใหม่ และยืนยันว่าจะเสนอขอนับคะแนนใหม่
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังยืนยันว่า ขอให้ทบทวนใหม่อีกครั้ง แต่ประธานสภาฯ ก็ยังยืนยันสั่งให้นับคะแนนใหม่ ซึ่งการนับคะแนนใหม่ตามระเบียบข้อบังคับนั้น กำหนดให้เป็นการลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล พร้อมกล่าวต่อที่ประชุมว่า ขออภัยเพื่อนสมาชิกที่ไม่ถูกใจด้วย
ทั้งนี้ ในการประชุมสภานั้นต้องมีองค์ประชุมถึง 250 คน ถึงสามารถลงมติได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายค้านทยอยออกจากห้อง ก็เหลือเพียง 92 คนเท่านั้น ทางประธานสภาฯ จึงได้สั่งปิดการประชุมแล้วประชุมต่อในวันถัดไป