แฟน กาย ฆ่าหั่นศพแม่ ยอมรับ โมโหแล้วทำร้าย - ชาวบ้านผวา ไม่กล้าผ่านหน้าบ้าน

          ยุ้ย แฟนกาย ศิระ คดีฆ่าหั่นศพแม่ ยอมรับกายเคยโมโหแล้วทำร้ายร่างกาย แต่สุดท้ายก็หยุด ด้านพ่อไม่เชื่อว่ากายทำ ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อยากให้มาเป็นพ่อลูกกันอีก


          ความคืบหน้ากรณี นายศิระ สมเดช หรือ กาย ฆ่าหั่นศพแม่ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ ล่าสุด รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานบทสัมภาษณ์ของ ยุ้ย แฟนกาย ศิระ ซึ่งยุ้ยอ้างว่า ได้อยู่กับกายช่วงก่อนเกิดเหตุ

          ทั้งนี้ ยุ้ย แฟนกาย เผยว่า ตนมาที่บ้านกายวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อมากินข้าวกับกายและแม่ ทั้งกายกับแม่ก็คุยกันปกติ หลังจากนั้นตนก็ออกมาเวลาประมาณ 22.00 น. กายเดินมาส่งตนที่ปากซอย จากนั้นก็ติดต่อกายไม่ได้เลย ส่วนเรื่องอื่นตนไม่ขอตอบ แต่ที่ผ่านมากายมีทะเลาะกับแม่เล็ก ๆ น้อย ๆ ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

          ในวันเกิดเหตุ กายมาส่งตนที่หน้าปากซอย ตนส่งข้อความหากาย แต่กายไม่ตอบ กายมาตอบอีกทีตอน 01.00 น. บอกแค่ว่า "ขอนอนก่อนนะ" และที่หายไปเพราะ "คุยกับแม่"

          ตอนที่คบกับกาย กายก็มีทุบตีตนบ้าง แต่กายทำกับตนคนเดียว ไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายจนเจ็บหนัก ถ้าตนร้องไห้ กายก็จะหยุด


          อย่างไรก็ตาม ตำรวจยืนยันว่ายุ้ยมาที่บ้านกายจริง แต่อยู่ไม่นาน ยุ้ยไม่ทราบปมสาเหตุที่กายลงมือฆ่าแม่ ตำรวจสอบปากคำทั้งหมดแล้ว และยังยืนว่าลูกก่อเหตุฆ่าแม่ อาจจะเกิดจากการมีปากเสียงกัน ด้วยพยานหลักฐานต่าง ๆ ทำให้มั่นใจว่า กาย ศิระ เป็นคนก่อเหตุ

          ในแง่ของทางคดี ยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ทีเดียว แต่จากหลักฐาน ไม่มีการโยงไปที่คนอื่น


          ด้าน พ่อของกาย บอกว่า ตนเลี้ยงลูกตั้งแต่เกิด แต่พอลูกโต ลูกก็ไปอยู่กับ น.ส.ยุรีย์ กายเป็นคนอารมณ์ศิลปิน ชอบเล่นดนตรี ตนเลี้ยงลูกก็ไม่เคยตีลูก ช่วงที่กายไปอยู่กับแม่ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างที่เข้าสู่วัยรุ่น พอกายไปอยู่กับแม่ ตนก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เจอกันล่าสุดคืองานศพย่าของกาย จะให้กายบวชหน้าไฟแต่กายติดสอบ

          ตนไม่อยากเชื่อว่ากายทำ แต่หลักฐานก็ชี้ว่ากายเป็นคนทำ ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อยากให้กายมาเกิดเป็นลูกของตนอีก อยากให้ลูกได้มาทำศพพ่อ ไม่ใช่พ่อที่มาทำศพลูก แบบนี้มันเจ็บปวด

          ในขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวก็เกิดความกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ที่ปกติจะอยู่แถวนั้น แต่ตอนนี้ 20.00 น. ก็หายไปแล้ว หรือกระทั่งชาวบ้านก็ปิดไฟ ปิดบ้านกันตั้งแต่หัวค่ำ รวมไปถึงคนในซอยก็ไม่กล้าผ่านหน้าปากซอย ยอมอ้อมไปเข้าซอยอื่นแทน