x close

ธนาธร เสนอตัดงบซื้ออาวุธกองทัพ 40% ลั่นเศรษฐกิจไม่ดี - ที่ผ่านมาเบิกจ่ายไม่ถึง 60%

 

              ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เสนอตัดลดงบซื้ออาวุธ 40% ชี้เศรษฐกิจประเทศไม่ดี ไม่ควรเพิ่มหนี้ให้ประเทศ ชี้ที่ผ่านมาใช้งบไม่ถึง 60% ไม่น่ากระทบความมั่นคง


                วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 เฟซบุ๊ก พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party ได้โพสต์นำเสนอข่าวว่าด้วยการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ตั้งคำถามถึงการของบประมาณของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยระบุว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะมีการคืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บริหารโดยหน่วยงานราชการปกติภายในปี 2565 ตอนนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมถ่ายโอนภารกิจไปยังหน่วยงานราชการเหล่านี้หรือไม่

                นายธนาธร ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าแนวทางแก้ปัญหาชายแดนใต้ที่ใช้ความมั่นคงเป็นหลัก ได้สะท้อนแล้วว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แม้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะใช้งบประมาณแก้ปัญหาชายแดนใต้ถึงวันละ 56 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถยุติความขัดแย้งในพื้นที่ได้ จึงจำเป็นต้องใช้แนวทางสันติภาพ ยึดประชาชนเป็นหลัก จึงจะนำไปสู่สันติภาพอย่างแท้จริง

                นอกจากนี้ นายธนาธรได้กล่าวถึงรายละเอียดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม โดยเน้นที่งบผูกพันข้ามปี ซึ่งกระทรวงกลาโหมมีงบประมาณผูกพันข้ามปีกว่า 6.9 หมื่นล้านบาท มากเป็นอันดับที่ 2 ของทุกกระทรวง คิดเป็น 27% ของงบประมาณทั้งหมดของกระทรวงกลาโหม และคิดเป็น 22% ของงบผูกพันทุกกระทรวง ซึ่งทำให้กระทรวงอื่นเสียโอกาสในการลงทุนที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ

                โดยหลังรัฐประหารปี 2557 จะพบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของงบส่วนนี้ โดยเกือบ 100% ของงบผูกพันดังกล่าว เป็นงบพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ธนาธรยังตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยและหอประชุมซึ่งมีจำนวนมาก และถูกใช้เพื่อสร้างความโอ่อ่าหรูหราให้บุคคลระดับสูงในกองทัพมากกว่าเป็นสวัสดิการของทหารจริง ๆ


พรรคอนาคตใหม่
                ธนาธรยังชี้ให้เห็นถึงความด้อยประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะกองทัพบก ในขณะที่รายจ่ายลงทุนในแต่ละปีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังรัฐประหาร จาก 3.78 พันล้านบาทในปี 2558 เป็น 5.9 หมื่นล้านบาทในปี 2562 แต่การเบิกจ่ายกลับไม่มีประสิทธิภาพ เบิกได้เพียง 42% ต่ำกว่ามาตรฐานของหน่วยงานราชการอื่นๆ อย่างมาก

                ด้วยเหตุนี้ ธนาธรจึงเสนอตัดงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ 22,441 ล้านบาท และงบลงทุน 15,434 ล้านบาท ลดลง 40% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ดีนัก ไม่อยู่ในสภาพที่ควรเพิ่มหนี้สินให้ประเทศ ซึ่งเมื่อมองย้อนหลังไป การใช้งบประมาณรายจ่ายลงทุนของกองทัพก็ไม่ถึง 60% อยู่แล้ว การตัดงบ 40% จึงไม่กระเทือนต่อความมั่นคง และยังลดภาระหนี้สินของประเทศอีกด้วย

                ทางด้านตัวแทนกองทัพบก ได้ตอบข้อซักถามของนายธนาธร โดยยืนยันว่า อาจจะเป็นจริงที่ใน 20 ปีข้างหน้า ไม่มีโอกาสเกิดสงครามขนาดใหญ่ แต่อาจเกิดความขัดแย้งเป็นจุด ๆ ซึ่งกองทัพจำเป็นต้องจัดเตรียมกำลังให้พร้อมอยู่เสมอ นอกจากนี้ อาวุธยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่ของกองทัพก็อยู่ในสภาพเก่า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงซื้อใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ส่วนกรณีการเบิกจ่ายได้ต่ำ เป็นเพราะการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต้องจัดทำอย่างรอบคอบ และมีการเจรจายาวนาน กว่าจะเสร็จสิ้นจึงกินเวลาหลายปี การเบิกจ่ายจึงมีสัดส่วนต่ำ และมีงบผูกพันข้ามปีจำนวนมาก

                ส่วนการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ผู้รับผิดชอบการบูรณาการหลักคือสภาความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนผู้ปฏิบัติคือ กอ.รมน. ในส่วนการคืนพื้นที่ชายแดนใต้ให้หน่วยงานปกติบริหารภายในปี 2565 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป้าหมายคือการลดงบประมาณลงให้ได้ 10% ต่อปี และความรุนแรงต้องลดลง 50% ในปี 2565 แต่เมื่อมีเหตุความรุนแรง ก็ยังจำเป็นต้องคงกองกำลังไว้ และปรับการใช้กฎหมายพิเศษในแต่ละพื้นที่ตามสถานการณ์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ธนาธร เสนอตัดงบซื้ออาวุธกองทัพ 40% ลั่นเศรษฐกิจไม่ดี - ที่ผ่านมาเบิกจ่ายไม่ถึง 60% อัปเดตล่าสุด 30 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10:57:17 4,365 อ่าน
TOP