ไอ้เติ้ล ฆ่าโหดครูผัวเมีย ที่แท้เป็นเพื่อนบ้าน - พบยังแชตบอกแม่ เติ้ลทำเองแหละ

          ไอ้เติ้ล ฆ่าโหดครูผัวเมีย ที่แท้เป็นเพื่อนบ้าน ฆ่าเสร็จยังกลับมานอน - พบส่งแชตบอกแม่ เติ้ลทำเองแหละ ก่อนหนีหายเตรียมเผ่นออกนอกประเทศ แต่ถูกจับได้ซะก่อน


          ความคืบหน้ากรณี นายศุภกฤต สุจาศรี หรือ ไตเติ้ล อายุ 22 ปี ก่อเหตุฆ่าโหด นายอโลชา สุภานิชย์ อายุ 33 ปี และนางสาวปรียาภรณ์ เพียรงาม อายุ 33 ปี คู่สามีภรรยาที่เป็นครู โดยพยายามจัดฉากให้ดูเหมือนฆ่ากันเอง ก่อนชิงเงินสด ทอง และรถบิ๊กไบค์ของผู้ตายหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็จนมุมตำรวจ ถูกจับได้ก่อนหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

          อ่านข่าว : เปิดความเหี้ยม ไตเติ้ล มือฆ่าครูผัวเมีย ยิงใส่แต่ไม่ตาย คว้ามีดเชือดซ้ำ ก่อนจัดฉาก


          วันที่ 1 ธันวาคม 2562 แนวหน้า มีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายศุภกฤต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย พล.ต.ท. มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ผู้ตายได้นัดหมายผู้ต้องสงสัยมาตกลงทำสัญญาซื้อ-ขายรถบิ๊กไบค์ดูคาติ และทำสัญญาโอนลอยกันในที่เกิดเหตุ โดยมีลำดับเวลา ดังนี้

          19.00 น. - ผู้ต้องหามาถึงบ้านที่เกิดเหตุ มีการทำสัญญาโอนลอย แต่เมื่อทำสัญญาเสร็จ นายศุภกฤตก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายอโลชา แต่กระสุนพลาดไปถูกศีรษะนางสาวปรียาภรณ์ที่ก้มเก็บของ จนเสียชีวิต จากนั้นนายศุภกฤตจึงได้ยิงนายอโลชาอีกครั้ง แต่ยังไม่เสียชีวิต จึงนำมีดปอกผลไม้มาเชือดคอซ้ำ

          21.50 น. - ผู้ต้องหาออกจากบ้านที่เกิดเหตุ นำรถไปฝากเพื่อนให้ส่งทางบริษัทขนส่ง เพื่อขายให้กับร้านรับซื้อรถที่ตกลงกันไว้แล้ว

          00.01 น. - นายศุภกฤตย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ รื้อค้นเงินและทรัพย์สินของผู้ตาย ได้เงินสดประมาณ 2 หมื่นบาท ทองรูปพรรณ 3 บาท ก่อนลากศพผู้ตายไปซ่อนในห้องแต่งตัวบนชั้น 2 และเขียนข้อความใส่กระดาษมาปิดไว้ที่ประตูหน้าบ้าน เพื่อจัดฉากให้เข้าใจว่าผู้ตายทั้งคู่ทะเลาะและลงมือฆ่ากันเอง เนื่องจากทราบว่าทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกัน เพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน

          ผู้ต้องหาออกจากบ้านที่เกิดเหตุ เดินกลับไปนอนที่บ้านของตัวเองที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร

          05.00 น. - นายศุภกฤตตื่นนอน และปลุกแม่ขอให้ไปส่งที่สนามบินอู่ตะเภา อ้างจะกลับไปบ้านที่เชียงใหม่

          ภายหลังแม่ขับรถไปส่ง นายศุภกฤตยังไลน์คุยกับแม่ตามปกติ โดยที่แม่ไม่ทราบว่าลูกไปก่อเหตุอะไรมา ในส่วนของบิ๊กไบค์ เมื่อทางร้านเห็นว่ามีเอกสารโอนครบถูกต้อง จึงโอนเงินให้ผู้ต้องหา 338,500 บาท ผ่านบัญชีนายกิตติ โดยที่นายกิตติได้รับค่าจ้างในการรับโอนเงิน 15,000 บาท

          วันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 14.20 น. - ผู้ต้องหาส่งข้อความสุดท้ายหาแม่ผ่านทางไลน์ ระบุว่า "เติ้ลทำเองแหละ อยากให้รู้จากปากเติ้ล ขอโทษนะ"

          ทั้งนี้ ทางตำรวจจะทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม และขยายผลประเด็นเรื่องหนี้สินการพนัน การทำธุรกิจซื้อ-ขายรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดทุกประเด็น เนื่องจากนายศุภกฤตเคยมีประวัติฉ้อโกงเรื่องซื้อ-ขายรถยนต์ที่กรุงเทพฯ และจะนำตัวส่งฝากขังศาลระยอง ในวันที่ 2 ธันวาคม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก