บีบหัวใจ สาวป่วยไตวาย ร้องขอพ่อทั้งน้ำตา อย่ารักษาเธอต่อ ขอนำเงินไปช่วยน้องแทน

          รายงานเผยว่า นับตั้งแต่ หลี่ หน่าน่า วัย 22 ปี ล้มป่วยด้วยโรคไตวายตั้งแต่ปี 2561 ครอบครัวของเธอก็ต้องขายวัวที่มีอยู่ และกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่ารักษาเธอ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนต่อมา หลี่ เจียนหุย พ่อของเธอ ก็ได้ทราบข่าวร้ายว่า หลี่ จื่อเฟย ลูกชายวัย 8 ขวบ กำลังป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอีลอยด์
          ด้วยความที่ หลี่ จื่อเฟย เป็นลูกบุญธรรมที่ครอบครัวหลี่รับมาเลี้ยง ทำให้เขายังไม่มีสถานะเป็นพลเมืองในท้องถิ่นนั้น ครอบครัวจึงต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาเด็กคนนี้ทั้งหมด โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากรัฐ เป็นเวลานานถึง 3 เดือน กว่าที่เอกสารจะเสร็จสมบูรณ์และสามารถรับความช่วยเหลือจากรัฐได้

          แต่ถึงอย่างนั้นครอบครัวหลี่ก็ยังมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากอยู่ดี หลี่ หน่าน่า ที่ต้องลาออกจากงานตั้งแต่ล้มป่วย จำต้องฟอกไตเป็นประจำเพื่อประคองอาการ หนทางรักษาเดียวของเธอคือการปลูกถ่ายไต ซึ่งใช่ว่าจะพบผู้บริจาคอวัยวะได้ในทันที

          ไม่เพียงแต่ลูกทั้ง 2 คนที่ หลี่ จื่อเฟย กับภรรยาต้องดูแล พวกเขายังมีลูกสาวอีก 2 คน คือ หลี่ เสี่ยวน่า วัย 15 ปี และหลี่ อวี้หน่า วัย 10 ขวบ รวมถึงแม่ผู้แก่ชราและมีความพิการ การที่ หลี่ จื่อเฟย เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ดูจะเป็นภาระที่หนักอึ้ง ในตอนนี้บ้านของเขามีหนี้สินแล้วกว่า 200,000 หยวน (ราว 850,000 บาท) ซึ่งนั่นทำให้ หลี่ หน่าน่า ยอมตัดใจ ขอให้พ่อล้มเลิกการรักษาเธอ เพื่อเก็บเงินไว้รักษาน้องชาย
          "พ่อคะ โปรดอย่ารักษาหนูอีกเลยถ้าไม่มีหนทางอื่นแล้ว เก็บเงินไว้รักษาน้องเถอะ เขายังสามารถดูแลพ่อตอนที่พ่อแก่ได้" หลี่ หน่าน่า วิงวอนพ่อทั้งน้ำตา ขณะนอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาล ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน

          อย่างไรก็ตาม หลี่ จื่อเฟย ยืนกรานปฏิเสธคำขอร้องนั้น เขาเผยกับสื่อว่า "ผมจะรักษาลูก ๆ อย่างเท่าเทียมกัน จะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อช่วยลูก ๆ ของผม ต่อให้ผมต้องขายเลือดของตัวเอง ผมก็ยอม" และ "ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกผมได้รับการรักษา"
          ทั้งนี้ ไม่ใช่ หลี่ จื่อเฟย เพียงคนเดียวที่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือ หลี่ หน่าน่า กับ หลี่ จื่อเฟย แม้แต่ลูกสาวคนที่ 2 อย่าง หลี่ เสี่ยวน่า ก็ตัดสินใจออกจากโรงเรียนตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อมาทำงานตามร้านอาหาร

          "เพราะพี่สาวกับน้องชายของหนูกำลังป่วย หนูเลยตัดสินใจออกจากโรงเรียน หนูอยากเก็บเงินค่าขนมสัปดาห์ละ 60 หยวน (ราว 250 บาท) มาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลและซื้อยาให้พวกเขาแทน" หลี่ เสี่ยวน่า กล่าว

          อนึ่ง หลี่ จื่อเฟย ได้ทราบจากแพทย์ว่าเขาต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 600,000 หยวน (ราว 2,500,000 บาท) เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อการผ่าตัดปลูกถ่ายไตแก่ลูกสาวมาถึง รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายไขกระดูกแก่ลูกชายด้วย มันเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับครอบครัวที่กำลังลำบาก แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เพื่อลูก ๆ ที่เขารัก

          หลี่ จื่อเฟย ยังได้ร้องขอความเมตตา หวังว่าจะมีคนใจดีที่ช่วยเหลือลูกชายกับลูกสาวของเขาได้ ซึ่งในที่สุดทางมูลนิธิ Henan Charity General Federation ของจีน ก็ได้จัดตั้งเพจระดมทุนเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวแล้ว