พรรคเพื่อไทย ตั้งคณะกรรมการเชือดงูเห่า เร่งสอบ 3 ส.ส. หลังมีโหวตสวนมติพรรค หากรับเงินจริง โดนฟันความผิดอาญา ชี้การซื้องูเห่าของรัฐบาลน่ากลัวขึ้นทุกวัน ใช้เงิน 7-8 หลัก ล่อใจ ส.ส.
วันที่ 6 ธันวาคม 2562 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค โหวตสวนมติพรรค ขณะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และมาตรา 44 ระบุว่า ขณะนี้ทางพรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส.ส. ทั้ง 3 คนแล้ว โดยมี พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นประธานคณะกรรมการ และจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 7-10 วัน
โดยจะเรียก ส.ส. ทั้ง 3 คน เข้ามาให้เหตุผลถึงการโหวตสวนมติพรรค เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว จะส่งเรื่องให้หัวหน้าทำการพิจารณาต่อไป เบื้องต้นหากพบว่ามีความผิดจะมีโทษหนักสุดคือ ไม่ให้ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งต่อไป ทั้งนี้ หากพบว่ามีการซื้อขายในการโหวต ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา
ตามรัฐธรรมนูญ ส.ส. สามารถโหวตได้โดยอิสระ และต้องไม่ถูกพรรคครอบงำนั้น พรรคมีแนวทางของพรรคที่ ส.ส. ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เอกสิทธิ์ก็เป็นในส่วนเอกสิทธิ์ แต่ ส.ส. ต้องปฏิบัติตามระเบียบของพรรคด้วย หลังจากนี้ทางพรรคมองว่า การซื้องูเห่านั้น น่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงต้องมีมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดงูเห่าของพรรคขึ้นมาอีก
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า การกระทำของรัฐบาลที่มีการซื้องูเห่านั้น แสดงให้เห็นถึงความกลัวในการตรวจสอบของรัฐบาล ถึงขั้นกล้าทำในสิ่งที่น่าละอาย ขัดต่อความรู้สึกของประชาขน ขัดต่อความถูกต้องชอบธรรม ไม่สะทกสะท้านต่อความผิด และยังมีข่าวอีกว่า มีการใช้เงินจำนวน 7-8 หลัก เพื่อโน้มน้าวชักจูงให้มีมติสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล เพื่อไม่ให้ตั้ง กมธ. ศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 การซื้องูเห่าในแต่ละพรรค จึงถือว่าเป็นการขาดวินัย ไร้จิตสำนึกของรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีการโหวตสวนมติ 4 คนนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ได้มีการหารือกันบ้างแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า จะมีการหารืออีกครั้งในวิปฝ่ายค้าย เชื่อว่าขณะนี้พรรคเศรษฐกิจใหม่ ก็กำลังตรวจสอบคนของตัวเองอยู่เช่นกัน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 6 ธันวาคม 2562 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค โหวตสวนมติพรรค ขณะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และมาตรา 44 ระบุว่า ขณะนี้ทางพรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส.ส. ทั้ง 3 คนแล้ว โดยมี พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นประธานคณะกรรมการ และจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 7-10 วัน
โดยจะเรียก ส.ส. ทั้ง 3 คน เข้ามาให้เหตุผลถึงการโหวตสวนมติพรรค เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว จะส่งเรื่องให้หัวหน้าทำการพิจารณาต่อไป เบื้องต้นหากพบว่ามีความผิดจะมีโทษหนักสุดคือ ไม่ให้ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งต่อไป ทั้งนี้ หากพบว่ามีการซื้อขายในการโหวต ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา
ตามรัฐธรรมนูญ ส.ส. สามารถโหวตได้โดยอิสระ และต้องไม่ถูกพรรคครอบงำนั้น พรรคมีแนวทางของพรรคที่ ส.ส. ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เอกสิทธิ์ก็เป็นในส่วนเอกสิทธิ์ แต่ ส.ส. ต้องปฏิบัติตามระเบียบของพรรคด้วย หลังจากนี้ทางพรรคมองว่า การซื้องูเห่านั้น น่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงต้องมีมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดงูเห่าของพรรคขึ้นมาอีก
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า การกระทำของรัฐบาลที่มีการซื้องูเห่านั้น แสดงให้เห็นถึงความกลัวในการตรวจสอบของรัฐบาล ถึงขั้นกล้าทำในสิ่งที่น่าละอาย ขัดต่อความรู้สึกของประชาขน ขัดต่อความถูกต้องชอบธรรม ไม่สะทกสะท้านต่อความผิด และยังมีข่าวอีกว่า มีการใช้เงินจำนวน 7-8 หลัก เพื่อโน้มน้าวชักจูงให้มีมติสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล เพื่อไม่ให้ตั้ง กมธ. ศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 การซื้องูเห่าในแต่ละพรรค จึงถือว่าเป็นการขาดวินัย ไร้จิตสำนึกของรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีการโหวตสวนมติ 4 คนนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ได้มีการหารือกันบ้างแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า จะมีการหารืออีกครั้งในวิปฝ่ายค้าย เชื่อว่าขณะนี้พรรคเศรษฐกิจใหม่ ก็กำลังตรวจสอบคนของตัวเองอยู่เช่นกัน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
