ผัวหึงโหด ซ้อมเมีย-จับหัวโขกกำแพง เหตุพบแชตคุยชายอื่น ทำเมียบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา เจ้าตัวสุดเครียด บนจะขอบวชให้ ถ้าเมียอาการดีขึ้น
วันที่ 14 ธันวาคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี มีรายงานความคืบหน้ากรณีหญิงคนหนึ่งถูกสามีทำร้ายจนอาการโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทรานานกว่า 4 วันแล้ว โดยพบว่าขณะนี้ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.สุพิชญา เดชจินดา อายุ 29 ปี ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม จ.นครปฐม ในสภาพไม่ได้สติ ภายหลังถูกผ่าเปิดกะโหลกเพื่อนำเลือดคั่งในสมองออก ซึ่งแพทย์ระบุว่าหากฟื้นมาแล้วอาจจะไม่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ตามร่างกายยังมีร่องรอยฟกช้ำหลายจุด ทั้งบริเวณใต้คาง ไหล่ขวา และในวันที่ 15 ธันวาคม แพทย์จะทำการเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ
ด้าน น.ส.บิว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ญาติผู้บาดเจ็บ เผยว่า น.ส.สุพิชญา ซึ่งทำงานเป็นแคตดี้สนามกอล์ฟ ได้คบหากับ นายนิวัฒน์ ปิ่นตบแต่ง มาประมาณ 4 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมา น.ส.สุพิชญา ก็มักจะนำลูกสาวมาฝากให้อาช่วยเลี้ยง 3-4 วันต่อสัปดาห์ ทำให้ตอนแรกญาติไม่เข้าใจว่านายนิวัฒน์ ก็เป็นคนว่างงาน เหตุใดไม่มีเวลาเลี้ยงจนต้องนำลูกมาฝาก แต่แล้วญาติก็มาทราบภายหลังว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และไม่อยากให้เด็กเห็นความรุนแรง
ที่ผ่านมา น.ส.บิว ก็พอทราบว่าคนเจ็บทะเลาะกับสามีบ่อย ๆ แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขั้นนี้ โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ช่วงประมาณ 02.00-03.00 น. นายนิวัฒน์ได้พา น.ส.สุพิชญา ส่งโรงพยาบาล แล้วโทร. มาบอกอาของตน จากนั้นมีตำรวจโทร. มาแจ้งให้ไปรับลูกของ น.ส.สุพิชญา ที่ สภ.นครไชยศรี เพราะนายนิวัฒน์ถูกจับไปแล้ว
ทั้งนี้ น.ส.บิว เพิ่งมาทราบภายหลังว่า ทางพยาบาลได้มีการหลอกถามเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเด็กได้บอกว่า "พ่อเอาขวดตีหัวแม่" ทางพยาบาลจึงแจ้งตำรวจมาจับนายนิวัฒน์ ขณะที่พยานแวดล้อมได้ให้ข้อมูลว่า ในคืนที่เกิดเหตุได้ยินเสียง น.ส.สุพิชญา กรีดร้องเสียงดัง เพราะถูกสามีจับหัวโขกกับกำแพงหลายครั้งจนคนรอบ ๆ ห้องได้ยิน
ในตอนนี้อาการของ น.ส.สุพิชญา สาหัสมาก เป็นตายเท่ากัน เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก จะต้องเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ ขณะที่หลานวัย 3 ขวบก็เอาแต่ถามว่าแม่ไปไหน ซึ่งทางญาติก็หวังว่า น.ส.สุพิชญา จะสามารถหายกลับมาดูแลลูกได้ ไม่ว่าจะฟื้นคืนมาในสภาพใดก็ตาม
นอกจากนี้ น.ส.บิว เผยว่า หลังจากที่นายนิวัฒน์ถูกจับตัวและได้รับการประกันตัวไป เจ้าตัวก็โทร. มาสอบถามอาการ น.ส.สุพิชญา และจะช่วยค่ารักษาพยาบาล แต่ทางญาติไม่ต้องการ อยากให้นายนิวัฒน์ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า ไม่ใช่เพียงทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้าน พ.ต.ท. ประสพ พันแจ้ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.นครไชยศรี เผยว่า เบื้องต้นสามารถแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัสกับนายนิวัฒน์เท่านั้น ส่วนข้อหาพยายามฆ่า ต้องรอความเห็นจากแพทย์ว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่มีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด ปืน อีกทั้งศีรษะของคนเจ็บก็ไม่ได้เป็นแผลฉกรรจ์ จึงไม่สามารถแจ้งข้อหาพยายามฆ่าได้ในทันที
ขณะที่ นางอร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี น้าของผู้ก่อเหตุ ภายหลังจากที่นายนิวัฒน์ถูกจับและได้รับการประกันตัว ก็ได้หนีหายไปก่อนโทร. มาเล่าให้ฟังว่า คืนวันเกิดเหตุนั้นตัวเองอยู่ในสภาพมึนเมา แล้วได้ไปเช็กโทรศัพท์มือถือของภรรยา พบว่ามีการคุยกับชายอื่น จึงเกิดความหึงหวง ไปปลุกภรรยาที่กำลังหลับอยู่มาตบตีโดยไม่ทันคิด
ทั้งนี้ ภายหลังถูกญาติภรรยากันไม่ให้นายนิวัฒน์เข้าไปเยี่ยม รวมถึงไม่ยอมรับเงินค่ารักษาพยาบาลใด ๆ นายนิวัฒน์จึงบนบานว่าถ้ามีปาฏิหาริย์ น.ส.สุพิชญา มีอาการดีขึ้นก็จะบวชให้ ซึ่งตนได้เห็นสภาพของฝ่ายหญิงแล้วก็รู้ว่าคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ และเมื่อไปบอกกับนายนิวัฒน์ เจ้าตัวเองก็รู้สึกผิดจนจะผูกคอตาย ตนเห็นแล้วก็ต้องโกหกไปว่าฝ่ายหญิงมีอาการดีขึ้น เพื่อไม่ให้หลานชายของตัวเองคิดสั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 14 ธันวาคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี มีรายงานความคืบหน้ากรณีหญิงคนหนึ่งถูกสามีทำร้ายจนอาการโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทรานานกว่า 4 วันแล้ว โดยพบว่าขณะนี้ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.สุพิชญา เดชจินดา อายุ 29 ปี ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม จ.นครปฐม ในสภาพไม่ได้สติ ภายหลังถูกผ่าเปิดกะโหลกเพื่อนำเลือดคั่งในสมองออก ซึ่งแพทย์ระบุว่าหากฟื้นมาแล้วอาจจะไม่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ตามร่างกายยังมีร่องรอยฟกช้ำหลายจุด ทั้งบริเวณใต้คาง ไหล่ขวา และในวันที่ 15 ธันวาคม แพทย์จะทำการเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ
ด้าน น.ส.บิว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ญาติผู้บาดเจ็บ เผยว่า น.ส.สุพิชญา ซึ่งทำงานเป็นแคตดี้สนามกอล์ฟ ได้คบหากับ นายนิวัฒน์ ปิ่นตบแต่ง มาประมาณ 4 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมา น.ส.สุพิชญา ก็มักจะนำลูกสาวมาฝากให้อาช่วยเลี้ยง 3-4 วันต่อสัปดาห์ ทำให้ตอนแรกญาติไม่เข้าใจว่านายนิวัฒน์ ก็เป็นคนว่างงาน เหตุใดไม่มีเวลาเลี้ยงจนต้องนำลูกมาฝาก แต่แล้วญาติก็มาทราบภายหลังว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และไม่อยากให้เด็กเห็นความรุนแรง
ที่ผ่านมา น.ส.บิว ก็พอทราบว่าคนเจ็บทะเลาะกับสามีบ่อย ๆ แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขั้นนี้ โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ช่วงประมาณ 02.00-03.00 น. นายนิวัฒน์ได้พา น.ส.สุพิชญา ส่งโรงพยาบาล แล้วโทร. มาบอกอาของตน จากนั้นมีตำรวจโทร. มาแจ้งให้ไปรับลูกของ น.ส.สุพิชญา ที่ สภ.นครไชยศรี เพราะนายนิวัฒน์ถูกจับไปแล้ว
ทั้งนี้ น.ส.บิว เพิ่งมาทราบภายหลังว่า ทางพยาบาลได้มีการหลอกถามเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเด็กได้บอกว่า "พ่อเอาขวดตีหัวแม่" ทางพยาบาลจึงแจ้งตำรวจมาจับนายนิวัฒน์ ขณะที่พยานแวดล้อมได้ให้ข้อมูลว่า ในคืนที่เกิดเหตุได้ยินเสียง น.ส.สุพิชญา กรีดร้องเสียงดัง เพราะถูกสามีจับหัวโขกกับกำแพงหลายครั้งจนคนรอบ ๆ ห้องได้ยิน
ในตอนนี้อาการของ น.ส.สุพิชญา สาหัสมาก เป็นตายเท่ากัน เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก จะต้องเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ ขณะที่หลานวัย 3 ขวบก็เอาแต่ถามว่าแม่ไปไหน ซึ่งทางญาติก็หวังว่า น.ส.สุพิชญา จะสามารถหายกลับมาดูแลลูกได้ ไม่ว่าจะฟื้นคืนมาในสภาพใดก็ตาม
นอกจากนี้ น.ส.บิว เผยว่า หลังจากที่นายนิวัฒน์ถูกจับตัวและได้รับการประกันตัวไป เจ้าตัวก็โทร. มาสอบถามอาการ น.ส.สุพิชญา และจะช่วยค่ารักษาพยาบาล แต่ทางญาติไม่ต้องการ อยากให้นายนิวัฒน์ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า ไม่ใช่เพียงทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้าน พ.ต.ท. ประสพ พันแจ้ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.นครไชยศรี เผยว่า เบื้องต้นสามารถแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัสกับนายนิวัฒน์เท่านั้น ส่วนข้อหาพยายามฆ่า ต้องรอความเห็นจากแพทย์ว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่มีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด ปืน อีกทั้งศีรษะของคนเจ็บก็ไม่ได้เป็นแผลฉกรรจ์ จึงไม่สามารถแจ้งข้อหาพยายามฆ่าได้ในทันที
ขณะที่ นางอร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี น้าของผู้ก่อเหตุ ภายหลังจากที่นายนิวัฒน์ถูกจับและได้รับการประกันตัว ก็ได้หนีหายไปก่อนโทร. มาเล่าให้ฟังว่า คืนวันเกิดเหตุนั้นตัวเองอยู่ในสภาพมึนเมา แล้วได้ไปเช็กโทรศัพท์มือถือของภรรยา พบว่ามีการคุยกับชายอื่น จึงเกิดความหึงหวง ไปปลุกภรรยาที่กำลังหลับอยู่มาตบตีโดยไม่ทันคิด
ทั้งนี้ ภายหลังถูกญาติภรรยากันไม่ให้นายนิวัฒน์เข้าไปเยี่ยม รวมถึงไม่ยอมรับเงินค่ารักษาพยาบาลใด ๆ นายนิวัฒน์จึงบนบานว่าถ้ามีปาฏิหาริย์ น.ส.สุพิชญา มีอาการดีขึ้นก็จะบวชให้ ซึ่งตนได้เห็นสภาพของฝ่ายหญิงแล้วก็รู้ว่าคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ และเมื่อไปบอกกับนายนิวัฒน์ เจ้าตัวเองก็รู้สึกผิดจนจะผูกคอตาย ตนเห็นแล้วก็ต้องโกหกไปว่าฝ่ายหญิงมีอาการดีขึ้น เพื่อไม่ให้หลานชายของตัวเองคิดสั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
