ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข หลักเกณฑ์จัดระเบียบร้านสักผิวหนัง-เจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย ต้องได้มาตรฐาน ป้องกันโรคติดต่อ และอันตรายจากการสัก
ภาพจาก Olena Yakobchuk / shutterstock.com
วันที่ 2 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย พ.ศ. 2562 ลงนามโดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยประกาศฉบับดังกล่าวเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การติดเชื้อ การแพ้สีหรือสารเคมี เป็นต้น
รวมถึงควบคุมมูลฝอยต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการ เช่น
เข็มสัก วัสดุปนเปื้อนเลือดหรือสารคัดหลั่ง
หากไม่ได้รับการจัดการที่ถูกสุขลักษณะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการประกอบกิจการต่อไป
โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยผู้ดำเนินกิจการสักต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. มีคู่มือการปฏิบัติงานและเอกสารแสดงขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุเข็มทิ่มตำ ของมีคมบาด หรือสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่ง ทั้งนี้ ผู้ดำเนินกิจการต้องแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน และแจกคู่มือปฏิบัติงานพร้อมทั้งชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานทราบ
2. มีความรู้ และควบคุมดูแลเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการจัดการมูลฝอยที่เกิดจากการประกอบกิจการ
3. แจ้งเตือนสำหรับผู้มารับบริการที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคโลหิตไหลไม่หยุด โรคลมชัก โรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ควรใช้บริการสักผิวหนัง
4. ให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เช่น การทำความสะอาดบริเวณที่สักหรือเจาะ ระมัดระวังไม่ให้บริเวณที่สักหรือเจาะถูกน้ำหลังทำใหม่ ๆ และหากบริเวณที่สักหรือเจาะมีลักษณะคล้ายติดเชื้อให้พบแพทย์ทันที โดยปิดประกาศให้เห็นชัดเจนภายในสถานประกอบกิจการ หรือมีเอกสารข้อแนะนำให้ผู้รับบริการนำกลับไปปฏิบัติได้
5. ผู้ดำเนินกิจการต้องควบคุมดูแลให้สถานประกอบกิจการมีการปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศนี้
ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ที่เป็นคนสักให้ต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขณะให้บริการ ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคผิวหนังที่น่ารังเกียจ
2. มีใบรับรองแพทย์การตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจเฝ้าระวังโรคติดต่อ ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และวัณโรค
3. มีความรู้และปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ และการจัดการมูลฝอย ที่เกิดจากการประกอบกิจการ ให้เป็นไปตามประกาศนี้
อย่างไรก็ตาม ประกาศดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความเชื่อทางพิธีกรรมหรือศาสนา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก Olena Yakobchuk / shutterstock.com
วันที่ 2 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย พ.ศ. 2562 ลงนามโดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยประกาศฉบับดังกล่าวเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การติดเชื้อ การแพ้สีหรือสารเคมี เป็นต้น
โดยผู้ดำเนินกิจการสักต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. มีคู่มือการปฏิบัติงานและเอกสารแสดงขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุเข็มทิ่มตำ ของมีคมบาด หรือสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่ง ทั้งนี้ ผู้ดำเนินกิจการต้องแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน และแจกคู่มือปฏิบัติงานพร้อมทั้งชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานทราบ
2. มีความรู้ และควบคุมดูแลเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการจัดการมูลฝอยที่เกิดจากการประกอบกิจการ
3. แจ้งเตือนสำหรับผู้มารับบริการที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคโลหิตไหลไม่หยุด โรคลมชัก โรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ควรใช้บริการสักผิวหนัง
4. ให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เช่น การทำความสะอาดบริเวณที่สักหรือเจาะ ระมัดระวังไม่ให้บริเวณที่สักหรือเจาะถูกน้ำหลังทำใหม่ ๆ และหากบริเวณที่สักหรือเจาะมีลักษณะคล้ายติดเชื้อให้พบแพทย์ทันที โดยปิดประกาศให้เห็นชัดเจนภายในสถานประกอบกิจการ หรือมีเอกสารข้อแนะนำให้ผู้รับบริการนำกลับไปปฏิบัติได้
5. ผู้ดำเนินกิจการต้องควบคุมดูแลให้สถานประกอบกิจการมีการปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศนี้
ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ที่เป็นคนสักให้ต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขณะให้บริการ ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคผิวหนังที่น่ารังเกียจ
2. มีใบรับรองแพทย์การตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจเฝ้าระวังโรคติดต่อ ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และวัณโรค
3. มีความรู้และปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ และการจัดการมูลฝอย ที่เกิดจากการประกอบกิจการ ให้เป็นไปตามประกาศนี้
อย่างไรก็ตาม ประกาศดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความเชื่อทางพิธีกรรมหรือศาสนา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก