ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผยสถานการณ์ความขัดแย้ง ระหว่าง สหรัฐอเมริกา-อิหร่าน กระทบถึงไทยในเรื่องเศรษฐกิจ เชื่อไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
โดยการที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้นั้น จะเกิดก็ต่อเมื่อประเทศมหาอำนาจแย่งชิงความเป็นที่หนึ่งกัน จะเห็นได้จากในประวัติศาสตร์หลายครั้ง ซึ่งความขัดแย้งครั้งนี้จะเกิดสงครามโลกขึ้น ถือว่าเป็นการมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เพราะขณะนี้จีนเป็นมหาอำนาจเบอร์ 2 และจีนก็ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่มีวันทำให้เกิดสงครามทั้งระบบหรือสงครามโลก ส่วนอิหร่านเอง เพิ่งเริ่มต้นในการกลับมาเป็นมหาอำนาจในระดับภูมิภาคเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นทำสงครามแย่งชิงบัลลังก์ครองโลกกันได้ เพราะอิหร่านยังไม่มีนิวเคลียร์
การที่จีนมีท่าทีออกมาขยับในความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นเรื่องของการกอบโกยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพราะจีนประกาศแล้วว่าจะไม่ส่งกองกำลังไปรบ แต่จะส่งเพียงกองกำลังไปฟื้นฟู เปรียบเสมือนเป็นกองทัพพ่อค้า เพื่อไปค้าขายและลงทุนฟื้นฟูในตะวันออกกลาง แต่ก็ถูกมองว่าความเข้มแข็งด้านขีปนาวุธของอิหร่านในระยะหลัง มีจีนและรัสเซียอยู่เบื้องหลัง
ภาพจาก Evan El-Amin / Shutterstock.com
ภาพจาก MEHDI GHASEMI / ISNA / AFP
ส่วนความรุนแรงในระยะยาวนั้น ขณะนี้เริ่มเกิดแล้ว โดยการที่อิหร่านประกาศออกจากข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เป็นเหมือนเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็ควรต้องระมัดระวัง ไม่ให้นโยบายด้านการต่างประเทศเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เพราะทั้งอิหร่านและสหรัฐอเมริกา เป็นมิตรประเทศกับไทยมาอย่างยาวนาน ดังนั้น ไทยจึงจำเป็นต้องรักษาความเป็นมิตรกับทั้ง 2 ประเทศไว้ ซึ่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยในระยะสั้นเท่านั้น ในเรื่องของการลงทุน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาทองคำ หรือราคาน้ำมัน แต่หากสถานการณ์ในปีนี้ตึงเครียดถึงขั้นเป็นสงครามในระดับภูมิภาค หรือ มีการก่อการร้ายในอาเซียน ก็จะส่งผลกระทบมากขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews