สาวโพสต์คลิปจับพิรุธสาวแบงก์ หลังพ่อวัยชรา ฝากเงิน 5 หมื่น ตอนแรกได้ครบ แต่กลับโทร. มาหาตอนเย็นบอกเอาเงินไปฝากแค่ 4 หมื่น ก่อนสุดท้ายจะยอมขอโทษ หลังโพสต์คลิปวงจรปิด
วันที่ 7 มกราคม 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ระบุว่า พ่อของตนเองได้นำเงินจำนวน 50,000 บาท ไปฝากกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจนับเงินทุกอย่างเรียบร้อย และเงินก็เข้าบัญชีครบตามที่ฝาก แต่หลังจากกลับบ้านมา ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ติดต่อกลับมาอีกครั้งพร้อมแจ้งว่า เงินที่นำไปฝากนั้นมีเพียง 40,000 บาท ไม่ครบตามที่แจ้งไว้
โดยนางพราว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลูกสาวผู้เสียหายและเป็นคนโพสต์เรื่องนี้ เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 08.30 น. พ่อได้นำเงินไปฝากจำนวน 50,000 บาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โดยเงินดังกล่าวได้มาจากการขายวัว 47,000 บาท และเพิ่มเงินที่เก็บออมจากการรับจ้างทำไร่ ทำนา วันละ 250 บาท ไปอีก 3,000 บาท
จากนั้นในเวลาประมาณ 18.00 น. ทางผู้จัดการของธนาคารได้ติดต่อมาแจ้งพ่อว่า ฝากเงินแค่ 40,000 บาท แต่เหตุใดจึงแจ้งพนักงานว่าฝากเงิน 50,000 บาท และหากพ่อไม่คืนเงินให้ธนาคารจำนวน 10,000 บาท ทางพนักงานจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้เอง พ่อของตนจึงไม่อยากมีเรื่อง และกลัวถูกธนาคารฟ้อง จึงจำต้องให้ธนาคารปรับเล่มสมุดให้เหลือเงินในบัญชีเพียง 40,000 บาท ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ตนได้ขอดูกล้องวงจรปิด และตั้งข้อสงสัยพนักงานที่อยู่ในคลิปว่าทำไมถึงหันไปหันมา มีท่าทางน่าสงสัย อีกทั้งตนก็ไม่รู้ว่าพ่อนำเงินไปฝากเท่าไร เพราะตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่พ่อก็ยืนยันว่าฝากเงิน 50,000 บาท จริง ซึ่งตนก็เชื่อพ่อ เพราะเรื่องเงินพ่อความจำดี
จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันนี้ ทางผู้จัดการของธนาคารได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ขอเจรจาให้ตนลบโพสต์ โดยอ้างว่ามีคนแชร์ไปเยอะ และยอมรับด้วยว่าพนักงานของธนาคารผิดจริง ด้วยเหตุนี้จึงยอมลบโพสต์ และขอให้ทางธนาคารกล่าวขอโทษ เพราะตนไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ
พร้อมยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนสงสัยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งความเพราะเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดต่างฝ่ายก็สงสัยว่าใครผิด โดยก่อนหน้านี้พ่อของตนฝากเงินที่ธนาคารสาขานี้เป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน แต่หลังจากนี้คิดว่าคงไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

วันที่ 7 มกราคม 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ระบุว่า พ่อของตนเองได้นำเงินจำนวน 50,000 บาท ไปฝากกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจนับเงินทุกอย่างเรียบร้อย และเงินก็เข้าบัญชีครบตามที่ฝาก แต่หลังจากกลับบ้านมา ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ติดต่อกลับมาอีกครั้งพร้อมแจ้งว่า เงินที่นำไปฝากนั้นมีเพียง 40,000 บาท ไม่ครบตามที่แจ้งไว้
โดยนางพราว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลูกสาวผู้เสียหายและเป็นคนโพสต์เรื่องนี้ เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 08.30 น. พ่อได้นำเงินไปฝากจำนวน 50,000 บาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โดยเงินดังกล่าวได้มาจากการขายวัว 47,000 บาท และเพิ่มเงินที่เก็บออมจากการรับจ้างทำไร่ ทำนา วันละ 250 บาท ไปอีก 3,000 บาท
จากนั้นในเวลาประมาณ 18.00 น. ทางผู้จัดการของธนาคารได้ติดต่อมาแจ้งพ่อว่า ฝากเงินแค่ 40,000 บาท แต่เหตุใดจึงแจ้งพนักงานว่าฝากเงิน 50,000 บาท และหากพ่อไม่คืนเงินให้ธนาคารจำนวน 10,000 บาท ทางพนักงานจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้เอง พ่อของตนจึงไม่อยากมีเรื่อง และกลัวถูกธนาคารฟ้อง จึงจำต้องให้ธนาคารปรับเล่มสมุดให้เหลือเงินในบัญชีเพียง 40,000 บาท ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ตนได้ขอดูกล้องวงจรปิด และตั้งข้อสงสัยพนักงานที่อยู่ในคลิปว่าทำไมถึงหันไปหันมา มีท่าทางน่าสงสัย อีกทั้งตนก็ไม่รู้ว่าพ่อนำเงินไปฝากเท่าไร เพราะตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่พ่อก็ยืนยันว่าฝากเงิน 50,000 บาท จริง ซึ่งตนก็เชื่อพ่อ เพราะเรื่องเงินพ่อความจำดี
จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันนี้ ทางผู้จัดการของธนาคารได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ขอเจรจาให้ตนลบโพสต์ โดยอ้างว่ามีคนแชร์ไปเยอะ และยอมรับด้วยว่าพนักงานของธนาคารผิดจริง ด้วยเหตุนี้จึงยอมลบโพสต์ และขอให้ทางธนาคารกล่าวขอโทษ เพราะตนไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ
พร้อมยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนสงสัยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งความเพราะเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดต่างฝ่ายก็สงสัยว่าใครผิด โดยก่อนหน้านี้พ่อของตนฝากเงินที่ธนาคารสาขานี้เป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน แต่หลังจากนี้คิดว่าคงไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก











