เปิดโปรไฟล์กำมะลอ เสี่ยหนึ่ง อ้างเป็นลูกหม่อม หลอกสาวแต่งงาน พบที่แท้อยู่สลัม

         เปิดโปรไฟล์เสี่ยกำมะลอ เสี่ยหนึ่ง อ้างเป็นลูกหม่อมราชวงศ์ เป็นหมอ และเจ้าของกิจการอีกเพียบ ตีสนิททางเฟซบุ๊ก ก่อนหลอกสาวแต่งงานแล้วเชิดเงินหนี เหยื่อรุมแฉเพียบ ที่แท้บ้านอยู่ในสลัม แม่เป็นแม่ค้า

           วันที่ 7 มกราคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า หญิงสาว 3 คน เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม หลังถูก นายภัควรรธน์ วัฒนานนท์ หรือ หนึ่ง อายุ 36 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ อ้างตัวเป็นเสี่ยมาหลอกให้แต่งงานด้วย ก่อนลวงเอาเงินและทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหายไป โดยขณะนี้มีการออกหมายจับนายภัควรรธน์แล้ว ในข้อหาฉ้อโกง

           พฤติการณ์ของเสี่ยหนึ่ง จะอ้างโปรไฟล์ดี ๆ เพื่อหลอกเหยื่อ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นบุคคลชนชั้นสูง แม่เป็นหม่อมราชวงศ์ มีอาชีพเป็นแพทย์ เจ้าของฟาร์มเห็ด เจ้าของฟาร์มสุนัข นักอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์ และเป็นเซียนพระ 

           โดย น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เดือนเมษายน 2562 เสี่ยหนึ่งเข้ามาตีสนิทตนในเชิงชู้สาว ผ่านโปรแกรมหาคู่ในเฟซบุ๊ก อ้างว่าเป็นนักธุรกิจเพาะพันธุ์สุนัข และช่างภาพอิสระ มีฐานะดี เขามีบุคลิกดี น่าเชื่อถือ ประกอบกับพูดจาดี จึงคบหาดูใจกันได้ 3 เดือน เสี่ยหนึ่งก็ให้แม่เขามาสู่ขอแต่งงาน พร้อมบอกว่าเรื่องสินสอดไม่มีปัญหา

           แต่พอถึงวันแต่งงานจริง กลับบอกไม่ได้เตรียมเงินสินสอดมา เนื่องจากติดปัญหาบางอย่าง จึงให้ตนออกค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งไปก่อน 3 แสนบาท และจะโอนเงินคืนให้ภายหลัง ตนเห็นว่าไม่อยากให้งานแต่งมีปัญหา ตนจึงยอมจ่ายให้ก่อน แต่สุดท้ายไม่ได้คืน ช่วงที่คบกันเขายืมเงินตนรวม 1.5 แสนบาท บอกว่าแม่ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมถึงหลอกให้ดาวน์รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ให้ 2 แสน และรถบิ๊กไบค์อีก 1 คัน บอกว่าออกรถเป็นชื่อตน แต่เขาจะผ่อนเอง กระทั่งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เสี่ยหนึ่งออกจากบ้านตนไป ทิ้งภาระหนี้สินให้ตนคนเดียว

          ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เสี่ยหนึ่งตีสนิทตนผ่านโปรแกรมหาคู่ในเฟซบุ๊กเช่นกัน อ้างว่าเป็นช่างภาพอิสระ และเป็นเจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์แห่งหนึ่ง เพิ่งเลิกกับภรรยา ต้องการคบหากับตนแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาบุคลิกดี มีรถยนต์ บ้าน ดูมั่นคง พูดจาเอาใจเก่ง จึงเริ่มหลงรักและคบหากัน ไม่นานก็ให้แม่มาสู่ขอแต่งงาน แต่ตนขอคบหากันไปก่อน เขาจึงทำทีมาขอยืมแหวนทองตนไปขาย อ้างว่าจะนำเงินไปใช้เคลียร์ปัญหากับภรรยาเก่า หากแบ่งทรัพย์สินกับภรรยาเก่าได้แล้วจะนำมาคืนให้ แล้วหนีหายไป

          ขณะที่ น.ส.นุ่ม (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เสี่ยหนึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์ พร้อมกับบอกว่ากำลังจะได้เงินปันผลจากบริษัทก้อนใหญ่ แต่ช่วงนี้ขัดสนเรื่องเงินสด และขอยืมเงินตนครั้งละ 5,000-10,000 บาท รวมเงินที่ยืมไปทั้งหมดราว 1 แสนบาท จากนั้นก็มาขอตนแต่งงาน แต่ขอให้จ่ายค่าต่าง ๆ รวมทรัพย์สินที่เสียไป มีเงินสด 1 แสน ค่ามัดจำงานแต่ง 4 หมื่น สร้อยทอง 1 บาท กรอบพระเหลี่ยมทอง 8 หมื่นบาท และพระเครื่อง รวมมูลค่า 3 แสนบาท ส่วนสาเหตุที่เชื่อเสี่ยหนึ่ง เพราะเขามักคุยติดต่อธุรกิจผ่านทางสปีกเกอร์โฟน คุยแชตต่าง ๆ ดูน่าเชื่อถือ แถมใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุย ใช้ภาษาไทยค่อนข้างน้อย ยิ่งทำให้ดูน่าเชื่อถือไปอีก

           นอกจากนี้ ยังได้สัมภาษณ์ น.ส.ใหม่ (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกคน เปิดเผยว่า รู้จักกับเสี่ยหนึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 ผ่านทางเฟซบุ๊ก ไม่นานก็ขอเข้ามาอยู่ในคอนโดด้วย โดยจะจ่ายเงินให้เป็นรายวัน พร้อมอวดว่ามีรถเบนซ์ขับ แต่ตนก็ไม่เคยเห็นรถ แถมทำตัวยุ่งคุยธุรกิจตลอดเวลา รวมถึงโชว์ให้ดูว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 2 จำนวน 7 ใบ แต่มาขอยืมเงินตน อ้างว่าทะเลาะกับแม่ เคยนำรูปแม่มาให้ดู เป็นภาพผู้หญิงแต่งชุดไทย ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นหม่อมราชวงศ์ ทรัพย์สินที่ตนเสียให้เสี่ยหนึ่ง รวมมูลค่า 1 แสนบาท

          เท่านี้ยังไม่พอ นายปอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนโดนเสี่ยหนึ่งอ้างว่าเป็นเซียนพระ ทำทีมาขอดูกรอบพระเลี่ยมทอง ออกอุบายขอเอาไปขายและจะนำเงินมาให้ แต่ก็หนีหายไป เอาเครื่องรางของตนไปด้วย รวมความเสียหาย 2 แสนบาท

           ทั้งนี้ เมื่อเดินทางไปที่บ้านของเสี่ยหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซอยผู้ใหญ่โจ้ ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ พบเป็นบ้านไม้ในชุมชนแออัด และได้เจอกับ น.ส.เอิญ (นามสมมติ) น้องสะใภ้ของเสี่ยหนึ่ง เปิดเผยว่า ปกติมักมีผู้หญิงมาหาเสี่ยหนึ่งบ่อยครั้ง ส่วนพฤติกรรมที่ไปหลอกเงินคนอื่น ครอบครัวไม่เคยรับทราบเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งที่เสี่ยหนึ่งกลับมาบ้านจะรับแม่ไปงานแต่งงาน พร้อมกับฝากเตือนทุกคนว่าอย่าหลงเชื่อเขา เพราะแม่เขาก็ไม่ใช่หม่อมราชวงศ์ เป็นเพียงแม่ค้าธรรมดาเท่านั้น

           ล่าสุด (7 มกราคม 2563) รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อตำรวจกองปราบปรามได้ไม่นาน นายภัควรรธน์ หรือ เสี่ยหนึ่ง ก็ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านราษฎร์บูรณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก