บิ๊กโจ๊ก ยันไม่ได้จัดฉาก ถล่มยิงรถ คาดฝีมือคนเสียประโยชน์ ไบโอเมทริกซ์

         พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เผยยืนยันไม่จัดฉาก ปมรถถูกยิงถล่ม หวังพาดพิง ผบ.ตร. เชื่อเป็นฝีมือผู้เสียผลประโยชน์ ปมยกเลิกโครงการไบโอเมทริกซ์

           ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ยี่ห้อ Lexus สีขาว ของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม 2563 

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ (7 มกราคม 2563) แนวหน้า รายงานว่า พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) และอดีต ผบช.สตม. เปิดเผยถึงเรื่องนี้ ยืนยันว่า รถที่ถูกยิงนั้นไม่ได้เป็นการจัดฉากเพื่อพาดพิงไปถึง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แน่นอน ตนขอท้าว่า หากตำรวจจับคนที่ก่อเหตุได้ จะรู้ทันทีว่ายิงทำไม และใครเป็นผู้บงการ

           พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรคาใจ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ตนทำตามหน้าที่ก็มีคนพอใจบ้าง หรือไม่พอใจบ้าง วันหนึ่งสังคมจะเห็นเอง โดยหลังมีข่าวถูกยิงออกมาตนยังไม่ได้คุยกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องไม่พอใจการโยกย้ายตำแหน่งนั้น ยืนยันว่ามันไม่มีเหตุ ถ้ามีก็ต้องมีการร้องเรียน และที่ผ่านมาตนทำงานก็เห็นผลงานกันมาตลอด

          ทั้งนี้ เชื่อว่าที่รถถูกยิงน่าจะมีประเด็นเดียว คือผู้สูญเสียผลประโยชน์ในโครงการไบโอเมทริกซ์ หรือระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้าของ สตม. ซึ่งสมัยที่เป็น ผบช.สตม. ได้ทำการยกเลิกไป และเป็นประเด็นอยู่ทุกวันนี้ เนื่องจากไม่ได้ประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ส่วนที่มองว่าเป็นการข่มขู่เพื่อไม่ให้ไปให้ปากคำกับ ป.ป.ช. หรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีผลแน่นอน และขณะนี้ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการนัดหมายมาแต่อย่างใด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก