ตำรวจเผยคดีโจรชิงทอง ลพบุรี มีความคืบหน้ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์
เบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัย 3 คน พบก่อนก่อเหตุขี่รถไปซื้อชุดที่ สระบุรี
และหลังก่อเหตุมีคนช่วยซุกซ่อนรถ
ภาพจาก policenews
วันที่14 มกราคม 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานความคืบหน้า
คดีคนร้ายจี้ชิงทองร้านทองออโรร่า สาขาห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 9
มกราคม ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า
ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์
สามารถคัดแยกบุคคลที่คิดว่าไม่เกี่ยวข้องออกไปได้แล้ว
จากกลุ่มคนที่อยู่ในข่ายมีศักยภาพในการลงมือก่อเหตุ ซึ่งคดีนี้มีความยาก
เพราะถ้าง่าย คงจับได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว ขณะนี้ผ่านมา 5 วัน
มีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
ยืนยันว่าไม่ว่าคนร้ายจะเป็นคนธรรมดา หรือเป็นคนในเครื่องแบบ ตำรวจก็จับหมด
จะไม่มีการเกรงกลัวอิทธิพลแน่นอน
พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวต่อว่า ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ การทำงานมีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้งในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง หน่วยคอมมานโด และหน่วยอื่น ๆ รวมถึงมีการใช้นักสืบระดับพระกาฬด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด เพราะจะทำให้คนร้าย หรือคนที่ให้ที่พักพิงคนร้ายเอาไปใช้เป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง
พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวต่อว่า ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ การทำงานมีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้งในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง หน่วยคอมมานโด และหน่วยอื่น ๆ รวมถึงมีการใช้นักสืบระดับพระกาฬด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด เพราะจะทำให้คนร้าย หรือคนที่ให้ที่พักพิงคนร้ายเอาไปใช้เป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง
ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ระบุว่า ตำรวจได้ลงพื้นที่ทำงานจนทราบว่า คนร้ายซื้อเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุจากร้านใน อ.พระพุทธบาตร จ.สระบุรี เป็นเสื้อผ้าทำเลียนแบบยี่ห้ออื่น โดยเจ้าหน้าที่ มีการนำหุ่นที่มีรูปร่างคล้ายคนร้ายมาจำลองการสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อตรวจสอบหาความเป็นไปได้
ภาพจาก policenews
และจากการสืบสวน ทราบว่า คนร้ายใช้เส้นทางออกถนนบายพาส ต.โพตลาดแก้ว อ.เมืองลพบุรี หลังก่อเหตุ ขี่หลบหนีไปในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ระยะทางไม่เกิน 150 กิโลเมตร ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะรถจักรยานยนต์ที่ใช้สามารถขี่ได้ประมาณระยะทางดังกล่าวพอดี ถ้าเติมน้ำมันเต็มถัง หากมีการแวะเติมที่ปั๊ม จะเสี่ยงต่อการสร้างหลักฐานในการติดตามตัว
ภาพจาก policenews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก