เปิดความในใจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา หลังศาลฎีกาพิพากษาคดีไร่ส้ม ยืนยันต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว พร้อมยอมรับผลการตัดสิน เผยความรู้สึกตั้งแต่ถูกสั่งเลิกทำรายการที่ตัวเองรัก มันยากทำใจ แค่เปิดทีวียังไม่กล้า

ภาพจาก Instagram sorrayuth9111
จากกรณีวันนี้ (21 มกราคม 2563) ผลการตัดสินของศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 6 ปี 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม อดีตพิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง ในคดีพนักงานของ อสมท ร่วมกับพนักงานของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ไม่ร่วมจัดทำค่าโฆษณาส่วนเกินของรายการ คุยคุ้ยข่าว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548-2549 จนเป็นเหตุให้ทาง อสมท เสียหายกว่า 138,790,000 บาท ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น

ทั้งนี้ การจ่ายเช็คทั้ง 6 ฉบับ มีที่มาที่ไปว่าเป็นการจ่ายค่าจ้าง เพื่อให้ทำงานเกี่ยวกับการขายโฆษณา มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายอย่างครบถ้วน ยอดเงินเป็นเศษสตางค์ และตัวเลขไม่ได้มีความสัมพันธ์กับโฆษณาเกินเลย แต่เมื่อเชื่อว่าเป็นการจ่ายสินบน ตนก็ต้องยอมรับ และเงินค่าโฆษณาเกิน 138 ล้าน ตนได้ชำระให้ อสมท ไปครบถ้วนแล้ว ตั้งแต่ยังไม่เกิดคดีความ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ทำให้ อสมท เสียหาย แต่เมื่อมันชดใช้สิ่งที่เห็นว่าผิดไปแล้วไม่ได้ ตนก็ยอมรับ
แน่นอนว่าตนย่อมกลัวการติดคุกติดตะราง แต่ชีวิตตนไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ได้สุขสบาย หรือไม่เคยลำบากตรากตรำ จนจะไปใช้ชีวิตในเรือนจำไม่ได้ หรืออยู่ลำบากไม่ได้ เชื่อว่าบางที ตอนที่ใช้ชีวิตทำงานมาร่วม 30 ปี อาจจะลำบากกว่าการใช้ชีวิตในเรือนจำก็เป็นได้ แต่สำคัญที่ร่วม 30 ปี นั้น ตนมีอิสรภาพ
สำหรับตน การต้องหยุดทำงาน เหตุเพราะคำพิพากษาของสังคม คือความทุกข์ทรมานที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะคือการห้ามตนใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่การห้ามทำอาชีพของตน อิสรภาพในการใช้ชีวิตของตนหมดไปตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว
"ผมติดคุกสังคมมา 4 ปีแล้ว ตลอด 4 ปีของการต่อสู้คดีก็ไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่วันเดียว ความรู้สึกเสมือนยิ่งสู้ยิ่งแพ้ แต่ก็ต้องสู้ วันนี้ผมคงติดคุกตามคำพิพากษาของศาลสูงสุด ความยากลำบากเดียวคือ ทำใจ ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าจะทำได้ขนาดไหน จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ที่จะทำความคุ้นเคยกับมัน แต่ที่สุดผมก็ต้องยอมรับให้ได้
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่างน้อยวันนี้ชีวิตผมก็จะได้เริ่มต้นใหม่เสียที แม้จะต้องเริ่มต้นจากติดลบ อยู่ในคุกตะราง จุดต่ำสุดของชีวิต แต่ก็ได้เริ่มต้น ซึ่งมันจะมีวันหนึ่งในที่สุดที่จะได้นับหนึ่งใหม่
ขอบคุณทุกคนที่เจอกัน ก็เข้ามาจับมือให้กำลังใจ ไม่ได้เจอกันก็ส่งกำลังใจมาให้ จนกว่าจะมีโอกาสพบกันใหม่ครับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา 21 มกราคม 2563"