สลด แม่กลั้นใจฆ่าลูกสาว 9 ขวบ ดับจมกองเลือด ก่อนโดดตึกหวังฆ่าตัวตายตาม พบป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เครียดจัดจนคุมสติไม่อยู่ ทิ้งจดหมายลาตายบอกรักลูกสาวมาก
วันที่ 21 มกราคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเหตุสลดที่เกิดขึ้น เมื่อแม่รายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตัดสินใจฆ่าบีบคอลูกสาววัย 9 ขวบ จนเสียชีวิต ก่อนที่จะกระโดดลงมาจากหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ชั้น 8 ตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายตาม โดยคาดว่าเธอน่าจะตกอยู่ในความเครียดจัดจนไม่สามารถควบคุมจิตใจและอารมณ์ของตัวเองได้
รายงานเผยว่า เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันเป็นคนมาเจอร่างของ มาเรีย รุสคิก หญิงวัย 29 ปี ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหิมะในสภาพเกือบเปลือย เธอส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ยอมบอกเพื่อนบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น พูดเพียงว่า "ช่วยฉันด้วย มือกับเท้าฉันไม่รู้สึกอะไรแล้ว"
รายงานเผยว่า เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันเป็นคนมาเจอร่างของ มาเรีย รุสคิก หญิงวัย 29 ปี ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหิมะในสภาพเกือบเปลือย เธอส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ยอมบอกเพื่อนบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น พูดเพียงว่า "ช่วยฉันด้วย มือกับเท้าฉันไม่รู้สึกอะไรแล้ว"
ในตอนนั้นเพื่อนบ้านสังเกตเห็นว่าที่มือและเท้าของรุสคิกชุ่มไปด้วยเลือด แม้ว่าเธอจะไม่มีแผลภายนอกใด ๆ โดยหลังจากที่เพื่อนบ้านช่วยโทร. ตามรถพยาบาล ทีมแพทย์และตำรวจก็เร่งรุดมายังที่เกิดเหตุในเมืองโนโวซีบีสค์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย รุสคิกถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการกระดูกหักหลายจุดจากการตกกระแทกพื้น
ขณะที่ทางตำรวจก็ได้เข้าไปตรวจค้นห้องพักของเธอ จนพบร่างของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่นอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้อง ซึ่งผลการตรวจทางนิติเวชพบว่าเด็กหญิงถูกวัตถุหนัก ๆ ฟาดใส่ศีรษะ ก่อนที่จะถูกบีบคอจนตาย
เลือดที่พบอยู่บนตัวของรุสคิก ก็คือเลือดของลูกสาวเธอนั่นเอง โดยตอนนี้เธอยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งแม้ว่าอาการของเธอจะค่อนข้างสาหัส แต่แพทย์ยืนยันว่าอาการของเธอทรงตัวแล้ว
เลือดที่พบอยู่บนตัวของรุสคิก ก็คือเลือดของลูกสาวเธอนั่นเอง โดยตอนนี้เธอยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งแม้ว่าอาการของเธอจะค่อนข้างสาหัส แต่แพทย์ยืนยันว่าอาการของเธอทรงตัวแล้ว
ทั้งนี้ แหล่งข่าวท้องถิ่นเผยว่า รุสคิกยังได้ทิ้งจดหมายลาตายไว้ภายในห้อง ระบุว่า "ฉันไม่อาจมีชีวิตอยู่กับอาการปวดหัวเกินจะทนได้อีกต่อไปแล้ว อภัยให้ฉันด้วย" และเธอยังทิ้งท้ายในจดหมายไว้ด้วยว่า เธอรักลูกสาวมาก ๆ
จากแถลงการณ์ของชุดสืบสวน เผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม โดยรุสคิกได้บีบคอลูกสาว ก่อนที่จะพยายามฆ่าตัวตาย ตอนนี้เธอได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล และจะถูกควบคุมตัวภายหลังจากที่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนคาดว่าเธอน่าจะตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถควบคุมจิตใจของตัวเองได้เลยเลือกที่จะทำแบบนี้ สืบเนื่องจากอาการเจ็บป่วยของเธอ
ขณะที่เพื่อนบ้านซึ่งอาศัยอยู่ห้องติดกัน เผยว่า รุสคิกเป็นแม่บ้านที่แทบจะไม่ออกจากห้องไปไหน ปกติลูกสาวของเธอมักเป็นคนแบกถุงหนัก ๆ จากร้านขายของชำใกล้ ๆ มาให้ ส่วนสามีของเธอเป็นคนในกองทัพ ทำให้เขามักจะอยู่แต่ในที่ทำงานเสมอ
