เบื้องหลัง ญี่ปุ่น ส่งเครื่องบินรับประชาชนจากอู่ฮั่น แม้ถูกปิดเมือง เหตุเจรจาหลักแหลม ขอบริจาคเครื่องมือแพทย์แลกพาคนกลับ การทูตสุดยอดของจริง
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
จากข่าวที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ ลำแรกไปยังเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ช่วงค่ำ วานนี้ (28 มกราคม 2563 ) เพื่อรับประชาชนกลับประเทศ เที่ยวบินละ 200 คน ซึ่งถือเป็นชาติแรก ๆ ที่สามารถไปอพยพคนจากเมืองที่เป็นศูนย์กลางไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ ได้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 29 มกราคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก Mister JAPAN เผยเบื้องหลังที่ญี่ปุ่นนั้นสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วก่อนประเทศอื่น มีหลายปัจจัยทั้ง รัฐบาลญี่ปุ่น เสนอช่วยส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีความจำเป็นสูงให้กับจีน โดยในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีบริษัทเอกชนแสดงน้ำใจบริจาคหน้ากากเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านชิ้น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยลำเลียงหน้ากากไปจีนทั้งหมด แลกกับที่ขากลับทางญี่ปุ่น ขอพาคนญี่ปุ่นกลับประเทศ
ภาพจาก Kazuhiro NOGI / AFP
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องที่ รัฐบาลญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับประชาชนมาก ตัวอย่างมีให้เห็นมาในหลายเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งบางครั้งต้องมีการทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือประชาชนแลกกับการถูกวิจารณ์อย่างหนักก็ยอม ขณะที่ นายโมเทงิ โทชิมิตสึ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ก็ถือเป็นนักการเมืองที่มีฝีมือ มีเครือข่ายของรุ่นพี่รุ่นน้องเพื่อน ๆ ที่จบจากที่เดียวกันซึ่งทำงานในรัฐบาลจีน ซึ่งน่าจะติดต่อขอความช่วยเหลือกันได้ดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ภาพจาก CHARLY TRIBALLEAU / AFP
ขณะที่ รัฐบาลจีน ที่ตกลงให้ญี่ปุ่นพาคนกลับ เป็นเพราะมีความเชื่อในมาตรการการควบคุมโรคระบาดของญี่ปุ่น จึงมั่นใจว่าญี่ปุ่นมีความพร้อมมากกว่าที่อื่น ๆ ไม่ได้ทำให้รัฐบาลจีนต้องมีปัญหาเพิ่มเติม ซึ่งพบว่า ในเที่ยวบินที่บินไปรับคนญี่ปุ่นที่ตกค้างอยู่ในอู่ฮั่นนั้น มีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนบินไปตรวจร่างกายก่อนพาคนกลับ หลังจากที่กลับมาญี่ปุ่นแล้วก็มีการตรวจละเอียดและติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่นที่จะกลับจากอู่ฮั่นผ่านเที่ยวบินพิเศษในครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำการเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินขาเดียว ในราคาปกติ ตก 80,000 เยน หรือประมาณ 22,500 บาท
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
สำหรับรายละเอียดทั้งหมดของเพจเฟซบุ๊ก Mister JAPAN เล่าถึงเบื้องหลังที่ญี่ปุ่น สามารถช่วยประชาชนที่ติดอยู่ที่ อู่ฮั่น ได้เป็นประเทศแรก ๆ ของโลก มีดังนี้
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
จากข่าวที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ ลำแรกไปยังเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ช่วงค่ำ วานนี้ (28 มกราคม 2563 ) เพื่อรับประชาชนกลับประเทศ เที่ยวบินละ 200 คน ซึ่งถือเป็นชาติแรก ๆ ที่สามารถไปอพยพคนจากเมืองที่เป็นศูนย์กลางไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ ได้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 29 มกราคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก Mister JAPAN เผยเบื้องหลังที่ญี่ปุ่นนั้นสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วก่อนประเทศอื่น มีหลายปัจจัยทั้ง รัฐบาลญี่ปุ่น เสนอช่วยส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีความจำเป็นสูงให้กับจีน โดยในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีบริษัทเอกชนแสดงน้ำใจบริจาคหน้ากากเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านชิ้น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยลำเลียงหน้ากากไปจีนทั้งหมด แลกกับที่ขากลับทางญี่ปุ่น ขอพาคนญี่ปุ่นกลับประเทศ
ภาพจาก Kazuhiro NOGI / AFP
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องที่ รัฐบาลญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับประชาชนมาก ตัวอย่างมีให้เห็นมาในหลายเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งบางครั้งต้องมีการทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือประชาชนแลกกับการถูกวิจารณ์อย่างหนักก็ยอม ขณะที่ นายโมเทงิ โทชิมิตสึ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ก็ถือเป็นนักการเมืองที่มีฝีมือ มีเครือข่ายของรุ่นพี่รุ่นน้องเพื่อน ๆ ที่จบจากที่เดียวกันซึ่งทำงานในรัฐบาลจีน ซึ่งน่าจะติดต่อขอความช่วยเหลือกันได้ดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ภาพจาก CHARLY TRIBALLEAU / AFP
ขณะที่ รัฐบาลจีน ที่ตกลงให้ญี่ปุ่นพาคนกลับ เป็นเพราะมีความเชื่อในมาตรการการควบคุมโรคระบาดของญี่ปุ่น จึงมั่นใจว่าญี่ปุ่นมีความพร้อมมากกว่าที่อื่น ๆ ไม่ได้ทำให้รัฐบาลจีนต้องมีปัญหาเพิ่มเติม ซึ่งพบว่า ในเที่ยวบินที่บินไปรับคนญี่ปุ่นที่ตกค้างอยู่ในอู่ฮั่นนั้น มีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนบินไปตรวจร่างกายก่อนพาคนกลับ หลังจากที่กลับมาญี่ปุ่นแล้วก็มีการตรวจละเอียดและติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่นที่จะกลับจากอู่ฮั่นผ่านเที่ยวบินพิเศษในครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำการเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินขาเดียว ในราคาปกติ ตก 80,000 เยน หรือประมาณ 22,500 บาท
ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP
สำหรับรายละเอียดทั้งหมดของเพจเฟซบุ๊ก Mister JAPAN เล่าถึงเบื้องหลังที่ญี่ปุ่น สามารถช่วยประชาชนที่ติดอยู่ที่ อู่ฮั่น ได้เป็นประเทศแรก ๆ ของโลก มีดังนี้