แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี
ประสบความสำเร็จในการรักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยใช้ยา 3 ตัว
เผยคนไข้ดีขึ้นภายใน 12 ชั่วโมง และผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบ ภายในระยะเวลา
48 ชั่วโมง ชี้ยังต้องวิจัยและศึกษา
ว่าใช้สูตรนี้เป็นมาตรฐานในการรักษาได้หรือไม่
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นพ.เกรียงศักดิ์
อติพรวณิช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี พร้อมด้วย รศ. นพ.สืบสาย
คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า
แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี
ประสบความสำเร็จในการรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
(Coronavirus) โดยใช้ยา 3 ตัว
และสามารถกำจัดไวรัสโคโรนาจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ
ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการรักษาดังกล่าว
เป็นหญิงชาวจีน อายุ 71 ปี จากเมืองอู่ฮั่น มีโรคประจำตัวคือ
ความดันโลหิตและโรคหัวใจโต
ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหัวหิน
และส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 29 มกราคม
แพทย์วินิจฉัยพบว่า ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมาก
โดยก่อนหน้านี้ผู้ป่วยได้รับยาต้านไวรัสมาแล้ว แต่ไม่ดีขึ้น
และอาการแย่ลงเรื่อย ๆ แพทย์จึงตัดสินใจใช้ยา 3 ตัวในการรักษา
และพบว่าประสบความสำเร็จ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ยาที่ใช้ทั้ง 3 ตัว คือ
- Oseltamivir เป็นยาต้านไวรัสหวัดที่เคยใช้รักษาโรคเมอร์ส หรือ MERS-CoV (Middle East Respiratory Syndrome) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกัน โดยแพทย์ใช้ปริมาณยา 300 มิลลิกรัมต่อวัน
- Lopinavir ยาต้านไวรัส HIV 800 มิลลิกรัมต่อวัน
แพทย์เริ่มรักษาผู้ป่วยดังกล่าวตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา พบว่าภายในระเวลา 12 ชั่วโมง ผู้ป่วยมีไข้ลดลง จากที่อ่อนเพลียมากก็สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา ผ่านทางห้องปฏิบัติการระบุว่าเป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมง ตอนนี้คนไข้ยังไม่หายสนิท แต่อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน
แพทย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่ได้หวงองค์ข้อมูลความรู้ ซึ่งก็จะมีการประสานงานส่งข้อมูลไปยังจีนต่อไป
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่ายาชุดนี้คือมาตรฐานในการรักษา เพราะเป็นโรคใหม่ จำเป็นต้องรอการวิจัยที่แน่ชัด จึงจะสามารถยืนยันว่าสามารถใช้เป็นมาตรฐานในการรักษาได้ นอกจากนี้แล้ว แพทย์ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจและเปิดรายงานศึกษาอยู่ตลอดเวลา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก