เจ้าของชุดนักเรียน ตราสมอ จ่อฟ้องไลฟ์โค้ชดัง อ้างเป็นทายาท หากินกับการสัมมนา

          เจ้าของชุดนักเรียน ตราสมอ จ่อฟ้องไลฟ์โค้ชชื่อดัง หลังแอบอ้างเป็นทายาท เปิดคอร์สสัมมนา ยอมรับเป็นญาติกันจริง แต่ไม่ใช่ทายาท ไม่มีความเกี่ยวใด ๆ กับธุรกิจ 

          จากกรณี นายณัฐวุฒิ กริตยอานนท์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือ ไลฟ์โค้ช (Life Coach) ได้นำชื่อและโลโก้ของชุดนักเรียน ตราสมอ ไปใช้พูดบนเวทีสัมมนาต่าง ๆ พร้อมอ้างว่าตัวเองเป็นทายาทธุรกิจชุดนักเรียนตราสมอ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ชุดนักเรียนตราสมอ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ว่า นายณัฐวุฒิ ไม่ได้เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจชุดนักเรียนตราสมอ ตามที่แอบอ้าง และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับบริษัททั้งสิ้น พร้อมขอให้นายณัฐวุฒิหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อและกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทโดยทันที

          ล่าสุด (15 กุมภาพันธ์ 2563) ข่าวช่องวัน รายงานว่า น.ส.อภิชา และ น.ส.อาภาพร ศิริปทุมมาศ ทายาทตัวจริงของชุดนักเรียนตราสมอ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัท สมอทองการ์เมนท์ จำกัด ได้แถลงข่าวยืนยันอีกครั้งว่า นายณัฐวุฒิ ไม่ใช่ทายาทและไม่ได้เกี่ยวข้องกับตราสมอ แต่ยอมรับว่ามีความเป็นเครือญาติกันจริง แต่ไม่ได้สนิทสนมหรือคุ้นเคย


          ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ อ้างว่า อากง มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทชุดแรก ร่วมกับลูกชายของอากง อีก 6 คน ตั้งแต่จัดตั้งบริษัทเมื่อปี 2526 จึงมีสิทธิเป็นทายาทตราสมอนั้น ข้อเท็จจริงแล้ว นายกิตติ และ นางลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ ผู้เป็นพ่อและแม่ของ น.ส.อภิชา และ น.ส.อาภาพร เป็นผู้ก่อตั้งชุดนักเรียนตราสมอ ก่อนที่จะมีการจัดตั้งบริษัทตามที่นายณัฐวุฒิกล่าวอ้าง

          โดยเมื่อกิจการเติบโตขึ้น นายกิตติ ได้ตัดสินใจจัดตั้งบริษัทเมื่อปี 2526 และเชิญอากงมาเป็นประธานเพื่อเป็นเกียรติ โดยจดทะเบียนเป็นชื่อ บริษัท สมอทองการ์เมนท์ จำกัด พร้อมแบ่งหุ้นให้กับน้องชายของนายกิตติ แต่คุณแม่ของนายณัฐวุฒิ ไม่ได้รับหุ้น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งญาติทุกคนทราบกันดี


          จากนั้นปี 2542 อากงและน้องชายของนายกิตติเห็นว่า นายกิตติและภรรยา ก่อตั้งบริษัทนี้ด้วยความอุตสาหะมากว่า 20 ปี จึงคืนหุ้นทั้งหมดให้นายกิตติและภรรยาเป็นผู้ถือครองบริษัทโดยชอบธรรมแต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

          ดังนั้น การที่นายณัฐวุฒินำชื่อและโลโก้ตราสมอ ไปแอบอ้างว่าตนเป็นทายาทนั้นเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และธุรกิจที่นายณัฐวุฒิทำก็เป็นธุรกิจเครือข่ายขายตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมและลูกค้าตราสมอ โดยที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนหลายครั้งผ่านทางโทรศัพท์และเอกสาร แต่นายณัฐวุฒิ ยังคงพูดและประชาสัมพันธ์ว่าเป็นทายาทอยู่ตั้งแต่ราวปี 2557

          โดยทายาทตัวจริง ยังบอกอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรึกษาทนายความและกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคลิปวิดีโอ รูปภาพ และเอกสารที่นายณัฐวุฒิใช้แอบอ้างทั้งหมด หากมีความจำเป็นต้องปกป้องชื่อเสียงของบริษัท จะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของชุดนักเรียน ตราสมอ จ่อฟ้องไลฟ์โค้ชดัง อ้างเป็นทายาท หากินกับการสัมมนา อัปเดตล่าสุด 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11:34:05 16,886 อ่าน
TOP
x close