สลดสังคม รุ่นพี่ ป.6 และ ป.4 รวม 3 คน ข่มขืน ป.1 พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอ ครอบครัวยื่นข้อเสนอจ่ายเงิน 9 หมื่น ชดใช้ แลกกับการไม่ดำเนินคดี ด้านพ่อเด็กไม่ยอม ยืนยันจะเอาเรื่อง แต่สุดท้ายแม่หอบเงินหนีไปกับผัวใหม่
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รายงานว่า นายโชค อายุ 41 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ได้พา ด.ญ.นิ่ม อายุ 7 ขวบ ลูกสาว เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจาก ด.ญ.นิ่ม ถูกรุ่นพี่ 3 คน ในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งอยู่ชั้น ป.4 และ ป.6 ล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำโรงเรียน และถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไปเผยแพร่ในโซเชียล
นายโชค ระบุว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย อายุ 13 ปี และคนเล็กคือ ด.ญ.นิ่ม ส่วนแม่ของลูก ๆ นั้นตนได้เลิกราไปแล้ว และแยกกันอยู่ประมาณ 1 ปี ต่างคนต่างก็มีแฟนใหม่ ลูก ๆ อาศัยอยู่กับแม่ กระทั่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยี่ยมลูก ๆ และได้คุยกับยายของเด็ก ๆ จึงทราบว่าลูกสาวตนถูกล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว และมีการถ่ายคลิป จนมีเด็กในโรงเรียนเห็นคลิปแล้วนำไปแจ้งผู้ปกครอง ก่อนที่ทางผู้ปกครองจะแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ
ต่อมาทางโรงเรียนได้เรียกเด็กและผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย โดยทางโรงเรียนได้ตักเตือน ด.ช. ทั้ง 3 คน และสั่งให้ลบคลิป พร้อมเจรจาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คน เสนอให้เงินคนละ 3 หมื่นบาท เพื่อที่แม่ของ ด.ญ.นิ่ม จะได้ไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งทางแม่ของ ด.ญ.นิ่ม ได้ถ่ายคลิปตอน ด.ช. ทั้ง 3 คน รับสารภาพไว้ด้วย
นายโชค ระบุอีกว่า แม่ของลูกสาวตนได้รับเงินจากคู่กรณีทั้งหมดเป็นเงิน 9 หมื่นบาท ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง และควรจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว จึงต่อว่าและให้นำเงินไปคืน แม่ของลูกสาวตนก็รับปาก แต่จู่ ๆ ก็หายไปกับสามีใหม่ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจพาลูกมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่นอีก
นายโชค ระบุว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย อายุ 13 ปี และคนเล็กคือ ด.ญ.นิ่ม ส่วนแม่ของลูก ๆ นั้นตนได้เลิกราไปแล้ว และแยกกันอยู่ประมาณ 1 ปี ต่างคนต่างก็มีแฟนใหม่ ลูก ๆ อาศัยอยู่กับแม่ กระทั่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยี่ยมลูก ๆ และได้คุยกับยายของเด็ก ๆ จึงทราบว่าลูกสาวตนถูกล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว และมีการถ่ายคลิป จนมีเด็กในโรงเรียนเห็นคลิปแล้วนำไปแจ้งผู้ปกครอง ก่อนที่ทางผู้ปกครองจะแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ
ต่อมาทางโรงเรียนได้เรียกเด็กและผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย โดยทางโรงเรียนได้ตักเตือน ด.ช. ทั้ง 3 คน และสั่งให้ลบคลิป พร้อมเจรจาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คน เสนอให้เงินคนละ 3 หมื่นบาท เพื่อที่แม่ของ ด.ญ.นิ่ม จะได้ไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งทางแม่ของ ด.ญ.นิ่ม ได้ถ่ายคลิปตอน ด.ช. ทั้ง 3 คน รับสารภาพไว้ด้วย
นายโชค ระบุอีกว่า แม่ของลูกสาวตนได้รับเงินจากคู่กรณีทั้งหมดเป็นเงิน 9 หมื่นบาท ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง และควรจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว จึงต่อว่าและให้นำเงินไปคืน แม่ของลูกสาวตนก็รับปาก แต่จู่ ๆ ก็หายไปกับสามีใหม่ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจพาลูกมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่นอีก
ขณะที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เผยว่า ก่อนที่นายโชคจะเดินทางมาร้องเรียนนั้น ทางฝ่ายแม่ของ ด.ญ.นิ่ม ก็ได้โทร. มาที่มูลนิธิแล้ว ตนได้บอกไปว่าไม่ต้องรับเงินจากใคร ควรเยียวยาเด็กด้วยการฟื้นฟูสภาพจิต ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้แม่ของ ด.ญ.นิ่ม พาลูกเข้าแจ้งความ แต่หลังจากแจ้งความแล้ว แม่ของ ด.ญ.นิ่ม ก็ได้รับเงินจากคู่กรณี พร้อมรับปากจะปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เอาเรื่องอีก
นางปวีณา บอกอีกว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเชิญกระทรวงศึกษาธิการมาประชุมที่มูลนิธิ เพื่อหามาตรการแก้ปัญหา จึงสอบถามไปยังศึกษาธิการจังหวัด แต่ทางศึกษาธิการจังหวัดยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีใครรายงาน ทั้งนี้ ในที่ประชุมจึงสรุปว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเข้าไปตรวจสอบและหามาตรการแก้ไข โดยนางปวีณายังให้ข้อเสนอแนะให้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยเฉพาะห้องน้ำ อาคารเรียน ห้องเรียน ห้องเรียนที่ไม่ได้ใช้งาน จุดอับ จุดเสี่ยง แหล่งมั่วสุมของนักเรียน พร้อมทั้งจัดให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ทั่ว และมีความพร้อมในการใช้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำอีก
จนกระทั่งวันนี้ นายโชคได้พาลูกสาวเดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดี โดยขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามเรื่องให้ลูกสาวได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่รับเงินแล้วปิดคดี โรงเรียนก็ไม่มีการแก้ไข ในฐานะเป็นพ่อจะไม่ยอมเด็ดขาด ตอนนี้เด็กก็อยู่กับนายโชค ซึ่งสภาพจิตใจน่าเป็นห่วงอย่างมาก
หลังรับเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณาได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมแก้ไขและป้องกัน ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ความเป็นธรรมกับ ด.ญ.นิ่ม ต่อไป
นางปวีณา บอกอีกว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเชิญกระทรวงศึกษาธิการมาประชุมที่มูลนิธิ เพื่อหามาตรการแก้ปัญหา จึงสอบถามไปยังศึกษาธิการจังหวัด แต่ทางศึกษาธิการจังหวัดยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีใครรายงาน ทั้งนี้ ในที่ประชุมจึงสรุปว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเข้าไปตรวจสอบและหามาตรการแก้ไข โดยนางปวีณายังให้ข้อเสนอแนะให้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยเฉพาะห้องน้ำ อาคารเรียน ห้องเรียน ห้องเรียนที่ไม่ได้ใช้งาน จุดอับ จุดเสี่ยง แหล่งมั่วสุมของนักเรียน พร้อมทั้งจัดให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ทั่ว และมีความพร้อมในการใช้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำอีก
จนกระทั่งวันนี้ นายโชคได้พาลูกสาวเดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดี โดยขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามเรื่องให้ลูกสาวได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่รับเงินแล้วปิดคดี โรงเรียนก็ไม่มีการแก้ไข ในฐานะเป็นพ่อจะไม่ยอมเด็ดขาด ตอนนี้เด็กก็อยู่กับนายโชค ซึ่งสภาพจิตใจน่าเป็นห่วงอย่างมาก
หลังรับเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณาได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมแก้ไขและป้องกัน ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ความเป็นธรรมกับ ด.ญ.นิ่ม ต่อไป
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
