x close

เปิดมหากาพย์หนี้ เสี่ยเต็นท์รถ ภาระ 20 ล้าน รายจ่ายหลักแสน แต่รายได้หลักร้อย

         เปิดบัญชี้หนี้ เฮียตี๋ เสี่ยเต็นท์รถ ฆ่าตัวตายหมู่ทั้งครอบครัว พบชักชวนคนมาลงทุนทำธุรกิจเพียบ ยอดหนี้เกือบ 20 ล้าน รายจ่ายต่อเดือนหลักแสน แต่รายได้มีแค่หลักร้อย


          จากกรณีเหตุสลด นายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือ เฮียตี๋ เสี่ยเต็นท์รถ กัณตภณ ออโต้ จ.พิษณุโลก ฆ่าตัวตายหมู่ทั้งครอบครัว 5 คน รวมทั้งสุนัขอีก 6 ตัว รวมเป็น 11 ชีวิต โดยพบว่ากู้เงินนอกระบบมาทำธุรกิจกว่า 10 ล้านบาท แล้วกิจการย่ำแย่ คาดเครียดสะสมจากปมหนี้สิน จนหาทางออกไม่ไหว จึงตัดสินใจจบชีวิต

อ่านข่าว : เปิดปมมรณะ เสี่ยเต็นท์รถ กู้นอกระบบ 10 ล้าน ดอกหลักแสน ทำ 3 ธุรกิจ แต่หมุนเงินไม่ทัน

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เจ้าหนี้หลายคนของเฮียตี๋ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ โดยคนแรกคือ นายคณิศร อมรรุ่งรัศมี ผู้ร่วมลงทุนกับเฮียตี๋เป็นเงิน 1,100,000 บาท ในธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ ทั้งนำเข้ารถยนต์และเปิดศูนย์ตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ที่เพิ่งเปิดได้ 1 เดือน ซึ่งตนร่วมซื้อหุ้น ตรอ. 10 หุ้น รวม 4 แสนบาท






          หลังจากธุรกิจกันได้ประมาณ 7-8 เดือน นายคณิศได้ลงทุนเพิ่มกับเฮียตี๋เป็นรอบเดือน เดือนละ 100,000 บาท หลังจากเฮียตี๋ขายรถได้ก็จะมอบเงินปันผลกำไรให้กับตน เดือนละประมาณ 5,000 บาท ส่วนเงินปันผลจาก ตรอ. ยังไม่ทันได้รับ เพราะเฮียตี๋เสียชีวิตไปเสียก่อน ส่วยยอดเงินที่เฮียตี๋ติดหนี้ตนเอง เบ็ดเสร็จอยู่ที่ 1,500,000 บาท

          ขณะที่ นายภิชาติ อมรรุ่งรัศมี ญาติของเฮียตี๋ เป็นอีกคนที่ร่วมลงทุนเต็นท์รถกับเฮียตี๋ และให้เฮียตี๋ยืมเงินมาโดยตลอด ซึ่งจำนวนเงินทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 8,000,000 บาท ที่ผ่านมาเฮียตี๋ใช้หนี้มาทุกเดือนมาโดยตลอด ด้วยการจ่ายเป็นเงินปันผล แต่พอเริ่มประสบปัญทางการเงินในช่วงต้นปี 2563 เฮียตี๋ก็ขอผัดผ่อนใช้หนี้เรื่อยมา กระทั่งเกิดเรื่องสลดขึ้น


          นายภิชาติ ยืนยันอีกว่า ตนมาลงบันทึกประจำวันในฐานะผู้เสียหาย และยืนยันว่าไม่ได้เป็นแก๊งปล่อยเงินกู้เงินนอกระบบอย่างที่มีข่าวลือออกมา ทำให้ตนเสียหาย ซึ่งตนก็มีหลักฐานการโอนเงินอะไรต่าง ๆ ทั้งหมด

          ทางด้าน นายวชิรวิทย์ พวงมาลัย เจ้าหนี้อีกหนึ่งราย เปิดเผยว่า ตนร่วมลงทุนธุรกิจกับเฮียตี๋เป็นเงิน 1,200,000 บาท โดยหวังเงินปันผลจากการขายรถยนต์ในเต็นท์ จากนั้นก็เริ่มทำธุรกิจด้วยกันมา 7 เดือน และเฮียตี๋ก็ให้คืนเงินมาแล้ว 260,000 บาท และมีกำหนดนัดรับเงินจากเฮียตี๋ 3 งวด แต่ค้างจ่ายรวมเป็นเงินทั้งหมด 940,000 บาท คือ

          - งวดแรก วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เป็นเงิน 290,000 บาท

          - งวดสอง วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เป็นเงิน 280,000 บาท

          - งวดสาม วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 เป็นเงิน 370,000 บาท

          นอกจากนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เฮียตี๋บอกเดือดร้อน และมาขอยืมเงินจากภรรยาของตนอีกจำนวน 180,000 บาท ด้วยเช่นกัน โดยรวมเงินที่เฮียตี๋ติดค้าง อยู่ที่ 1,120,000 บาท

          เจ้าหนี้อีกคนคือ นางกิ่ง (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ร่วมลงทุนทำธุรกิจเต็นท์รถกับเฮียตี๋ และลงทุรอื่น ๆ อีก 4 รายการ โดยเฮียตี๋ก็บอกตนว่าถ้าหากขายรถของตนได้ เขาจะให้เงินปันผลกำไรกับตน พร้อมกับเงินต้น แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้ สำหรับยอดเงินที่ร่วมลงทุนไป รวมแล้วจำนวน รวมยอดลงทุนเป็นเงินรวม 5,167,200 บาท ดังนี้

          - ซื้อหุ้น ตรอ. จำนวน 30 หุ้น ราคา 1,000,000 บาท

          - ลงทุนทำธุรกิจซื้อเหมารถตู้ จำนวน 3,300,000 บาท

          - ซื้อเหมารถเก๋งกับเฮียตี๋ 500,000 บาท

          - ร่วมซื้อรถเก๋งจำนวน 2 คัน 367,200 บาท


          นางกิ่ง กล่าวอีกว่า เฮียตี๋ยังได้ชักชวนหลานชายและอาม่าตนไปที่ร่วมลงทุนค่าปิดรถยนต์ โดยหลานชายลงทุนไป 1,600,000 บาท ส่วนอาม่าลงทุนค่าปิดรถยนต์ไป 2,000,000 บาท

          รวมยอดหนี้ทั้งหมดที่เฮียตี๋ค้างไว้จากเจ้าหนี้รายต่าง ๆ อยู่ที่เกือบ 20 ล้านบาท โดยเฮียตี๋มีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนเกือบ 200,000 บาท ซึ่งรายได้ติดลบ เพราะขายรถไม่ได้ ร้านกาแฟก็ยังไม่ได้เปิด และขายน้ำแข็งได้แค่วันละ 500 บาทเท่านั้น


          สำหรับธุรกิจของเฮียตี๋นั้น นายวิวา ชนะกาสี อายุ 39 ปี ลูกน้องของที่ทำงานกับเฮียตี๋ได้ประมาณ 4 ปี เปิดเผยว่า ในช่วงแรกธุรกิจเต็นท์รถเป็นไปด้วยดีมาก ขายรถได้วันละประมาณ 15 คัน พอมาถึงปี 2562 กิจการซบเซาลงมาก สามารถขายรถได้แค่เดือนละ 2 คัน บางเดือนขายไม่ได้เลย

          พอมาขึ้นปี 2563 เฮียตี๋ยังขายรถไม่ได้สักคัน ส่วนธุรกิจ ตรอ. ที่เริ่มทำตั้งแต่ช่วงเดือนพฤจิกายน 2562 ก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เหมือนว่าเฮียตี๋ลงทุนหลักล้าน แต่ได้เงินหลักร้อย

          ที่ผ่านมาเฮียตี๋ก็บ่นกับตนมาโดยตลอดว่าเครียด ทำไมช่วงนี้เงียบจัง ทำไมลูกค้าน้อยจัง แต่ตนไม่คิดเลยว่าเฮียตี๋จะตัดสินใจจบชีวิต โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตนจะลากลับบ้านไปกับภรรยา แต่แม่ของเฮียตี๋ได้วานให้ตนไปซื้อกลอนแบบสามารถล็อกกุญแจจากข้างในได้

          ตนก็สงสัยเพราะของเดิมก็มีอยู่แล้ว แต่แม่เฮียตี๋บอกว่ากลอนเดิมล็อกไม่ค่อยอยู่ ตนจึงไปซื้อกลอนมาและจัดการติดตั้งในห้องให้เสร็จสรรพ ตนคิดไม่ถึงเลยว่ากลอนนั้นจะใช้เพื่อการฆ่าตัวตาย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดมหากาพย์หนี้ เสี่ยเต็นท์รถ ภาระ 20 ล้าน รายจ่ายหลักแสน แต่รายได้หลักร้อย โพสต์เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11:28:37 80,203 อ่าน
TOP