สมพงษ์ ซัด พล.อ. ประยุทธ์ บริหารประเทศสอบตก
หลักการคือหลักกูและพวกพ้อง ล้มเหลวต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ด้าน ยุทธพงศ์
ชี้มีพฤติกรรมที่ร่ำรวยผิดปกติ
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน
ได้ขอเปิดอภิปรายทั่วไป มีข้อกล่าวหา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน ว่า พล.อ. ประยุทธ์
เป็นผู้ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ
กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ใช้อำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม
ละเมิดหลักนิติธรรมและสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างกว้างขวาง
ซึ่งมีความล้มเหลว 5 ประการ
1.
ความล้มเหลวต่อการสร้างความเชื่อมั่นในทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย
เนื่องจากมีการสร้างกลไก เพื่อรักษาอำนาจของพวกพ้อง เช่น
การได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาจากเสียงของ ส.ว.
ที่แต่งตั้งมาเองไม่ได้มาจากเสียงของประชาชน
2. การบริหารราชการแผ่นดิน หลักการคือหลักกูและพวกพ้องอย่างไม่อับอาย
3. การจัดการด้านเศรษฐกิจ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการบริหารงานที่ล้มเหลวได้ฆ่าชีวิตประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
4. ล้มเหลวต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าเป็นฝั่งตรงข้ามก็จะจัดการ แต่ถ้าเป็นฝั่งตนก็ช่วยเหลือ มีองค์กรต่าง ๆ ที่ทำให้คดีล่าช้าและสุดท้ายก็หายไป
5. ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเป็นผู้นำกองทัพที่ดี แต่การบริหารประเทศสอบตก เพราะเชื่อว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่ผู้มีตำแหน่ง เป็นคำสั่งจากบนลงล่าง ไม่ต้องการให้มีการทักท้วงหรือเห็นต่าง จะเห็นได้จากพฤติกรรมและคำพูดที่สะท้อนวุฒิภาวะทางปัญญาและอารมณ์ หลายครั้งคำพูดกระเทือนต่อสังคมโลก
2. การบริหารราชการแผ่นดิน หลักการคือหลักกูและพวกพ้องอย่างไม่อับอาย
3. การจัดการด้านเศรษฐกิจ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการบริหารงานที่ล้มเหลวได้ฆ่าชีวิตประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
4. ล้มเหลวต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าเป็นฝั่งตรงข้ามก็จะจัดการ แต่ถ้าเป็นฝั่งตนก็ช่วยเหลือ มีองค์กรต่าง ๆ ที่ทำให้คดีล่าช้าและสุดท้ายก็หายไป
5. ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเป็นผู้นำกองทัพที่ดี แต่การบริหารประเทศสอบตก เพราะเชื่อว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่ผู้มีตำแหน่ง เป็นคำสั่งจากบนลงล่าง ไม่ต้องการให้มีการทักท้วงหรือเห็นต่าง จะเห็นได้จากพฤติกรรมและคำพูดที่สะท้อนวุฒิภาวะทางปัญญาและอารมณ์ หลายครั้งคำพูดกระเทือนต่อสังคมโลก
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่อาจไว้วางใจให้ พล.อ. ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป โดยสิ่งที่ตนจะกล่าวหามีดังนี้
1. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการกระทำอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในประเด็นเรื่องรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยผิดปกติ
2. ในฐานะผู้บริหารราชการแผ่นดินละเมิดหลักนิติธรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้รัฐเสียหายอย่างต่อเนื่องและมีข้อทักท้วงข้อเสนอแนะแต่ไม่สนใจไม่พยายามที่จะแก้ความเสียหายทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว บริวารและพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบริหารราชการแผ่นดินโดยขาดความรู้ความสามารถ ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
3. เรื่องทุจริตต่อหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญของกฎหมาย
4. บริหารงานขาดประสิทธิภาพไม่ไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์บริหารราชการแผ่นดินในนามนายกรัฐมนตรีต่อไป นับตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 กระบวนการตรวจสอบในสภาได้เว้นช่วงไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีการกระทำที่เป็นมูลเหตุจุงใจ หรือเพียงบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ นายกบริหารงานตามหลักนิติธรรมหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ประเด็นทรัพย์สินและหนี้สินนั้น เป็นการร่ำรวยผิดปกติและได้เห็นแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปี แต่มีอภินิหารทางกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีไม่ต้องชี้แจงและยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเครื่องมือทางกฎหมายประเภทหนึ่ง โดยการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินพบว่ามีพฤติกรรมที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งรายรับและรายจ่ายไม่สัมพันธ์กัน โดยผิดปกติวิสัย
ภาพจาก สำนักข่าว INN