สาวเนิร์สเซอรีฉาว แอบกินตับเด็กวัย 13 ลับหลังสามี สุดเจ็บช้ำลูกที่คลอดมา แท้จริงเป็นลูกชู้ ไม่เคยรู้จนผล DNA ชี้ชัด ใครคือพ่อเด็ก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยศาลในอังกฤษกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวนคดีที่ ลีอาห์ คาร์ดีซ หญิงวัย 20 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมีกิจกรรมทางเพศกับผู้เยาว์ รวม 5 กระทง ซึ่งมีการเปิดเผยว่า เรื่องฉาวดังกล่าวเริ่มขึ้นในปี 2560 ตอนที่ ลีอาห์ มีอายุเพียง 17 ปี ตอนนั้นเธอที่อยู่ในสภาพมึนเมา ได้เข้าไปในห้องนอนของเด็กชายวัย 13 ปี ที่กำลังเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่ ก่อนจะเริ่มจู่โจมถอดกางเกง แล้วมีเพศสัมพันธ์กับเขา
ด้านเด็กชายที่ไม่เปิดเผยนาม ได้ให้ปากคำกับตำรวจในเวลาต่อมาว่า ตอนแรกพวกเขาก็พูดคุยกันตามปกติ แต่ตอนที่เขากำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ลีอาห์ก็ขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วกอดจูบเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไป โดยที่ตัวเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ แถมเธอก็ยังไม่พูดอะไรกับเขาเลยหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะลีอาห์ยังคงลอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายอีกเรื่อยมา เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งระหว่างนั้นเธอก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่ และตั้งครรภ์จนคลอดทารกเพศหญิงที่น่ารัก
สามีของลีอาห์ไม่ได้ระแคะระคายแม้น้อย ว่าแท้จริงแล้วทารกที่เกิดมาไม่ใช่ลูกของเขา แต่เป็นลูกที่เกิดจากชู้รักวัย 13 ปี และเขาก็ถึงกับโกรธจัดเมื่อจับได้ว่าภรรยาแอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายลับหลังเขาตั้งแต่ก่อนและหลังจากที่เธอคลอดทารกแล้ว
ทว่าเรื่องเพิ่งจะทราบถึงหูตำรวจในช่วงต้นปี 2561 เมื่อแม่ของเด็กชายได้ทราบความจริง นำมาสู่การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งกลายมาเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เด็กชายวัย 13 ปี คือพ่อแท้ ๆ ของทารกที่ลีอาห์คลอดออกมา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
"เด็กนั่นแอบรักฉันมาตลอด เขามักจะพูดและทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับฉัน เช่น การจับเนื้อต้องตัว เขาทำให้ฉันรำคาญ แล้วเราก็ไม่มีการติดต่อกันในเรื่องเพศ" ลีอาห์ อ้าง
ขณะที่ฝ่ายเด็กชายได้เผยกับตำรวจว่า "เราควรจะมีเซ็กส์กัน และก็รักกัน แต่นี่เหมือนกับเธอแค่ต้องการทำมันเท่านั้น ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าเธอไม่เคยแคร์ผมเลยจริง ๆ"
แต่หลังจากการไต่สวนคดีดำเนินไป ในที่สุดลีอาห์ก็ได้เปิดปากยอมรับแล้วว่าเธอเคยมีอะไรกับเด็กชายจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเชื่อมั่นว่าเด็กชายไม่ใช่พ่อของลูก รวมถึงปฏิเสธข้อหามีกิจกรรมทางเพศกับผู้เยาว์ด้วย
ทั้งนี้ คดียังคงอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล ซึ่งยังต้องรอดูกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้ว ลีอาห์จะได้รับโทษสถานใดจากเรื่องฉาวที่เกิดขึ้น และสุดท้ายลูกสาวของเธอจะอยู่ในความดูแลของใครกันแน่