ชาวทวิตเตอร์เดือด จวกเพื่อไทยปาหี่การเมือง หลังวอล์กเอาต์ไม่ลงมติไม่ไว้วางใจ ลั่นผิดหวังที่เคยเทคะแนนให้ สุดท้ายทำเพื่อตัวเอง
จากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ของฝ่ายค้านต้องสิ้นสุดลง เนื่องจากผู้อภิปรายจากฝ่ายค้านบางพรรคบริหารจัดการเวลาไม่ดี จนพรรคอื่นที่อยู่ถัดมาเหลือเวลาไม่เพียงพอในการอภิปราย ประกอบกับทางฝ่ายรัฐบาลเอง ก็ไม่ยินยอมให้มีการขยายเวลาการอภิปราย จนฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ และมีการลงมติให้ใช้สิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน ซึ่งมีผลให้มีการปิดมติการประชุมปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยคะแนน 251 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 2 จนทำให้นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ แสดงความไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่ามีการใช้กลยุทธ์ ถ่วงเวลา-เตะตัดขา-สับขาหลอก ที่มาจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ปิยบุตร ซัด ไม่ได้อภิปรายประวิตร-อนุพงษ์-วิษณุ พวกเดียวกันสับขาหลอก ฝ่ายค้านแตก !
ล่าสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งต่างพากันติดแฮชแท็ก #กูสั่งให้มึงเข้าสภา เนื่องจากความผิดหวังที่เมื่อหมดเวลาการอภิปราย 4 วัน 3 คืนแล้ว แต่ยังอภิปรายไม่เสร็จ ฝั่งวิปรัฐบาลจึงขอให้มีการโหวตว่าจะให้อภิปรายต่อหรือไม่ แต่ปรากฏว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย กลับเดินออกจากที่ประชุมเพื่อเป็นการประท้วง จนเมื่อโหวตแล้วโหวตแพ้ ต้องปิดมติการประชุมปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการติด #เพื่อไทย หลังจากที่ทางพรรค เข้าประชุมสภา แต่ไม่ยอมร่วมลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งผลโหวตปรากฏว่า พรรคฝั่งวิปรัฐบาล ได้คะแนนไว้วางใจไปอย่างท่วมท้น โดยเฉพาะ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ได้คะแนนไว้วางใจกว่า 277 เสียง ในขณะที่คะแนนไม่ไว้วางใจคือ 50 เสียง อันส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ฝั่งฝ่ายค้านแพ้อย่างราบคาบ
หลายคนมองว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการหักหลังประชาชน ปากบอกว่าทำเพื่อประชาชน แต่การวอล์กเอาท์แบบนี้ไม่เกิดผลดีกับใครใด ๆ ทั้งสิ้น การเข้าไปลงมติไม่ไว้วางใจนั้น ก็เป็นการทำงานของ ส.ส. เอง แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ แม้ว่าจะแพ้ก็ตาม แต่การเลือกที่จะไม่โหวตเลย ยิ่งทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ พร้อมกล่าวหาว่าอาจมีการตกลงกับฝ่ายรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ จนทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า
