แม่โร่ร้อง มูลนิธิปวีณาฯ ลูกสาวสาดน้ำกรดใส่พี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งหลานตัวเล็ก ๆ ก่อนหลบหนีไป คาดแก้แค้น ปมโดนหม้อตีหัวตั้งแต่เด็ก เตรียมประสานตำรวจเร่งติดตามตัว
![น้องสาดน้ำกรดใส่พี่]( "น้องสาดน้ำกรดใส่พี่")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 7 มีนาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นางศรี (นามสมมติ) ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ณ สำนักงาน ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขอให้ช่วยเหลือ น.ส.บาย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ลูกสาว พร้อมด้วย ด.ช.ที (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ หลังถูกน้าสาว ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองของตนเอง สาดน้ำกรดเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยที่ไม่รู้สาเหตุ ก่อนหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ ทั้ง 3 คน กำลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า นางศรีไม่รู้สาเหตุว่าทำไม น.ส.เอ ถึงทำแบบนี้กับพี่สาวและหลาน ๆ ของตัวเองได้ แต่สองพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกกันมานานแล้ว โดยตั้งแต่เด็ก น.ส.บาย ลูกสาวคนโต จะช่วยเลี้ยงน้องมาตลอด ซึ่งตอน น.ส.เอ อายุได้ 10 ขวบ ก็ดื้อและซนมาก จนพี่สาวเผลอดุด่าและใช้หม้อตีเข้าที่ศีรษะน้อง
จากนั้น น.ส.เอ ก็ไม่พูดคุยกับพี่สาวอีกเลย จนอายุ 18 ปี
ก็ขอแยกตัวไปอยู่ข้างนอกกับเพื่อน นาน ๆ จะกลับบ้านมาสักครั้ง ส่วน น.ส.บาย
ก็แยกออกไปมีครอบครัว แต่เมื่อไม่นานมานี้ น.ส.บาย
ประสบอุบัติเหตุจากการขี่รถจักรยานยนต์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงพาลูก ๆ
กลับมาอยู่ที่บ้านแม่ ซึ่งเป็นจังหวะที่ น.ส.เอ กลับมาบ้านพอดี
เมื่อเจอหน้าพี่สาวก็ไม่พูดคุย แต่รอจนกระทั่งดึกแล้วก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ นางศรี กล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวตน เพราะรุนแรงเกินกว่าที่จะรับได้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน อย่างไรก็ตาม อยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจติดตามตัว น.ส.เอ ผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนอยากถามว่า ทำแบบนี้ทำไม คิดอย่างไรถึงได้ทำแบบนี้ แม้กระทั่งหลานอายุเพียง 10 ขวบ และ 6 ขวบ ยังทำได้ลงคอ
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน และเห็นใจนางศรี ที่ต้องเผชิญปัญหารุนแรงในครอบครัว จึงได้ประสาน พ.ต.อ. นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า เพื่อเร่งสอบปากคำ น.ส.บาย เพื่อติดตามตัว น.ส.เอ มาดำเนินคดี
โดยในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 นางปวีณาจะเดินทางไปโรงพยาบาลสิรินธร พร้อม พ.ต.อ. นันทภูมิ และนางศรี เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.บาย และสอบถามอาการจากแพทย์ผู้รักษา พร้อมทั้งประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้การฟื้นฟูสภาพจิตใจของทุกคน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ขณะที่ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า นางศรีไม่รู้สาเหตุว่าทำไม น.ส.เอ ถึงทำแบบนี้กับพี่สาวและหลาน ๆ ของตัวเองได้ แต่สองพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกกันมานานแล้ว โดยตั้งแต่เด็ก น.ส.บาย ลูกสาวคนโต จะช่วยเลี้ยงน้องมาตลอด ซึ่งตอน น.ส.เอ อายุได้ 10 ขวบ ก็ดื้อและซนมาก จนพี่สาวเผลอดุด่าและใช้หม้อตีเข้าที่ศีรษะน้อง
ทั้งนี้ นางศรี กล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวตน เพราะรุนแรงเกินกว่าที่จะรับได้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน อย่างไรก็ตาม อยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจติดตามตัว น.ส.เอ ผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนอยากถามว่า ทำแบบนี้ทำไม คิดอย่างไรถึงได้ทำแบบนี้ แม้กระทั่งหลานอายุเพียง 10 ขวบ และ 6 ขวบ ยังทำได้ลงคอ
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน และเห็นใจนางศรี ที่ต้องเผชิญปัญหารุนแรงในครอบครัว จึงได้ประสาน พ.ต.อ. นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า เพื่อเร่งสอบปากคำ น.ส.บาย เพื่อติดตามตัว น.ส.เอ มาดำเนินคดี
โดยในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 นางปวีณาจะเดินทางไปโรงพยาบาลสิรินธร พร้อม พ.ต.อ. นันทภูมิ และนางศรี เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.บาย และสอบถามอาการจากแพทย์ผู้รักษา พร้อมทั้งประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้การฟื้นฟูสภาพจิตใจของทุกคน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
