รีวิว OPPO Reno3 Pro กล้องหน้าคู่ 44 ล้าน กล้องหลัง 4 ตัว

เซลฟี่ให้สุด สวยฉุดทุกสายตากับ OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกล้องหน้าคู่ 44MP ที่ถือว่าชัดที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่มี Ultra Night Selfie Mode ในกล้องหน้า ทำให้คุณเซลฟี่ได้สวยคมชัดทุกเวลา อีกทั้งยังมี Dual lens bokeh ที่ช่วยถ่ายให้ฉากหลังละลายสวยมีมิติดูเป็นธรรมชาติ ในส่วนของกล้องหลังนั้นมาพร้อมกล้อง 4 ตัว 64MP ฟังก์ชันแน่น ถ่ายรูปสนุก ถ่ายวิดีโอเพลินมีกันสั่น ถึงแบตฯ ลดก็หมดห่วงเพราะ VOOC Flash Charge 4.0 ชาร์จไวเว่อร์ ชาร์จแค่ 20 นาทีได้แบตฯ ถึง 50%

แกะกล่องส่องฟังก์ชันเด่นเอาใจคนรักการถ่ายภาพ ผ่านมุมกล้องของ OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนในฝันของสายเซลฟี่ที่มีกล้องหน้าคู่ความคมชัดจัดเต็มถึง 44MP สวยเป๊ะได้ดั่งใจแม้ถ่ายในที่มืด เพราะมี Ultra Night Selfie Mode และ Dual Lens Bokeh ละลายพื้นหลังได้อย่างมีมิติ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว คมชัดสูงสุด 64MP ช่วยให้ภาพคมชัดได้ทุกสภาพแสง แถมยังซูมได้ไกลถึง 20 เท่า เรื่องการถ่ายวิดีโอก็ไม่ธรรมดา มีทั้งกันสั่น ละลายฉากหลังผ่าน Video Bokeh และเก็บภาพได้กว้างขึ้นด้วย Ultra Wide Angle ถ่ายจบเอาเข้าแอปฯ SOLOOP Smart Video Editor อยากจะทำ Vlog สักคอนเทนต์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

OPPO Reno3 Pro
เรียบหรู ดูดี สีสวย ดีไซน์โดดเด่น

พูดถึงดีไซน์ของ OPPO Reno3 Pro ตัวเครื่องบาง มีน้ำหนักเบา แต่สัมผัสได้ถึงความแข็งแรง มีความโค้งมนที่ทำให้ถือจับได้ถนัด รองรับสรีระของมือในการหยิบจับใช้งานได้พอดิบพอดี ทำจากวัสดุเกรดพรีเมียม ด้านหลังเครื่องไล่สีสันสวยงาม เมื่อแสงตกกระทบจะมีประกายที่ทำให้เครื่องดูหรูหราขึ้นไปอีก หน้าจอแสดงผลเต็มจอ เป็นแบบ Dual Punch-hole Super AMOLED ขนาด 6.4” มีสีสันที่สดใส และวางตำแหน่งกล้องหน้าฝังอยู่ที่มุมซ้ายเรียบเสมอเป็นส่วนเดียวกับหน้าจอเลย

ครั้งแรกของโลกกับกล้องหน้าคู่คมชัดถึง 44MP

ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่บอกเลยว่าต้องปลื้มปริ่มแน่นอน ด้วยกล้องหน้าคู่ (Dual Punch-hole Camera) สุดคมชัด ที่ถูกฝังเอาไว้บนหน้าจอด้านซ้ายเป็นส่วนเดียวกับตัวเครื่อง โดยกล้องหลักมีความละเอียดถึง 44MP รูรับแสง F/2.4 และเลนส์ Depth of Field ความละเอียด 2MP รูรับแสง F/2.4 ปรับ Bokeh หรือปรับระดับความชัดลึก-ชัดตื้นของภาพได้ ทำให้ภาพที่เซลฟี่สามารถละลายฉากหลังได้สวยเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญภาพถ่ายก็จะมีความคมชัดมากยิ่งขึ้นด้วย

เมื่อเลือกการถ่ายเซลฟี่ จะมีแสงไฟวิ่งที่รอบ ๆ เลนส์กล้องทั้ง 2 ตัว

จะเห็นได้ชัดเลยว่า คุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้าคือ คมชัด ละเอียดเนียนกริบ เก็บได้ทุกรายละเอียดของใบหน้า

ปรับ Bokeh ละลายฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ

และอย่างที่บอกไปว่า กล้องหน้า OPPO Reno3 Pro มีเลนส์ตัวที่ 2 เป็น Depth of Field ที่สามารถเลือกปรับ Bokeh หรือระดับความชัดลึก-ชัดตื้นของภาพได้ตั้งแต่ 1-100 อยากให้ฉากหลังละลายมากน้อยขนาดไหนก็ย่อมได้

เลือกปรับระดับ Bokeh แบบสวยสั่งได้

Bokeh 1%

Bokeh 100%

เพิ่มสีสันการเซลฟี่ด้วย Filter สีหลากสไตล์

นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกฟิลเตอร์ เพิ่มสีสันที่ชอบ เปลี่ยน Mood & Tone ของรูปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยมีให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกัน

ภาพต้นฉบับ

OP1

OP2

OP3

OP4

OP5

เซลฟี่ทั้งทีต้องมี AI Beauty ปรับใบหน้าให้สวยใสตามใจสั่ง

ถึงแม้จะมีกล้องหน้าเซลฟี่ระดับเทพขนาดนี้แล้ว OPPO Reno3 Pro ก็ยังไม่ลืมโหมด AI Beauty เสริมเติมแต่งรูปหน้าให้สวยใสยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นปรับหน้าให้เรียบเนียน ใบหน้าเรียว ตาโต จมูกเล็กลง คาง ใบหน้าเล็ก เสริมแต่ง หรือแบบสามมิติ ก็เพียบพร้อมเหมือนยกกระเป๋าเครื่องสำอางมาวางไว้ตรงหน้ายังไงยังงั้น

ถ่ายด้วยโหมดปกติ

ถ่ายด้วย AI Beauty + คาง

ถ่ายด้วยโหมดปกติ

ถ่ายด้วย AI Beauty + ปรับจมูกเล็กลง

ถ่ายด้วยโหมดปกติ

ถ่ายด้วย AI Beauty + ปรับหน้าเนียน

Ultra Night Selfie Mode เซลฟี่ตอนไหนก็สวยใสแม้แสงน้อย

เซลฟี่ด้วยโหมดปกติ

เซลฟี่ด้วยโหมดกลางคืน

ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่มีการเพิ่มความสว่างให้กับการเซลฟี่ในเวลากลางคืน “Ultra Night Selfie Mode” หรือช่วงที่มีแสงน้อย แต่คงไว้ซึ่งความคมชัดของภาพ ไม่แตก ไม่ Noise ด้วยเทคโนโลยี New Multi-frame Composition กล้องหน้าทำงานแบบการถ่ายภาพหลายเฟรมแล้วนำมารวมเป็นภาพเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานไปพร้อม ๆ กับ HDR จะทำให้ภาพเซลฟี่ออกมาดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบ Al-based Noise Reduction ที่ทำงานร่วมกับ AI Algorithms, HDR และ New Multi-frame Reduction เพื่อให้ภาพที่คมชัดและให้ความละเอียดมากกว่าการมองเห็นด้วยตาเปล่า และยังมีความสามารถพิเศษในการประมวลผลใบหน้า (Human Face Protection) ทำการปรับความสว่างของตัวบุคคลและฉากหลัง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สวย คมชัด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เพียงเลือกไปที่โหมดกลางคืน ภาพจะทำการประมวลผลอัตโนมัติ ความคมชัดก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

กล้องหลัง OPPO Reno3 Pro 4 ตัว 64MP
คมชัดทุกสภาพแสง แม้ยามค่ำคืน

กล้องหลัง OPPO Reno3 Pro มีด้วยกันถึง 4 ตัว ความคมชัดสูงสุดถึง 64MP สามารถถ่ายได้ชัดในทุกสภาพแสง แม้ในยามค่ำคืน โดยประกอบไปด้วย

Ultra-Clear Main Camera กล้องหลักความละเอียดสูงสุดที่ 64MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.72” รูรับแสงกว้างสูงสุดถึง f1.8 เก็บแสงได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และด้วยความละเอียดขนาดนี้ทำให้ภาพของเรามีความคมชัด รายละเอียดครบ และมีสีสันสดใสเสมือนจริงมากขึ้น
เลนส์ Telephoto เลนส์ซูมความละเอียด 13MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.4” รูรับแสง f2.4 สามารถซูมได้ไกลขึ้น หมดปัญหาเรื่องระยะทาง
เลนส์ Ultra Wide-Angle เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/4” สามารถถ่ายได้กว้างขึ้น 109 องศา ถึงแม้มีพื้นที่จำกัดก็สามารถเก็บรายละเอียดในมุมกว้างได้
เลนส์ Mono หรือเลนส์ขาว-ดำ ความละเอียด 2MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/5” สำหรับการถ่ายภาพ Portrait

สนุกไปกับการถ่ายภาพ Portrait กล้องหลังความคมชัดสูงสุด

ความละเอียดของกล้องหลัง 4 ตัว ทำให้ภาพถ่ายบุคคล หรือภาพถ่าย Portrait มีความคมชัด มาพร้อมระบบ AI Beauty ที่จะช่วยปรับความเรียบเนียนของใบหน้าให้สวยสดใส และยังสามารถปรับแต่ง Bokeh เพื่อละลายฉากหลังได้ตามต้องการตั้งแต่ 1-100%

ปรับ Bokeh ก่อนถ่าย

ถ่ายด้วยโหมดปกติ

ถ่ายด้วยโหมด Portrait + Bokeh 10%

Portrait + Bokeh 60%

Portrait + Bokeh 100%

และในโหมดถ่ายภาพ Portrait ก็ยังมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้ถึง 6 แบบ 6 สไตล์ เพื่อย้อมสีภาพ คุมโทนตามต้องการได้อีกด้วย

OP1

OP2

OP3

OP4

OP5

OP6

Ultra Dark Mode ถ่ายภาพคมชัดแม้ในที่มืดหรือแสงน้อย

เปรียบเทียบความต่างของภาพที่ใช้ Ultra Dark Mode

OPPO Reno3 Pro ตัวนี้สามารถเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามในยามค่ำคืนได้ สว่างกว่าสายตามนุษย์อย่างเราจะมองเห็น แต่ภาพที่ออกมาสวย คม และภาพชัดจนน่าตกใจ เพราะ Noise รบกวนแทบจะไม่มี เพราะได้ถูกจัดการด้วยระบบ AI ไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางคืน หรือในที่มืด เมื่อยกกล้องถ่ายภาพที่มีแสงสว่างน้อย Ultra Dark Mode จะทำงานโดยอัตโนมัติ

โหมดปกติ

Ultra Dark Mode

ภายในร้านถึงแม้จะมีแสงน้อย แต่ภาพก็สว่างขึ้นทันตา

โหมดปกติ

Ultra Dark Mode

Ultra Wide Angle เพิ่มมุมมองภาพที่กว้างขึ้น

เลนส์ Ultra Wide Angle มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้กว้างถึง 109 องศา เก็บทุกบรรยากาศและรายละเอียดที่ต้องการได้ครบถ้วน จะเก็บภาพคู่กับตึกสูง ๆ ก็สามารถทำได้หายห่วง หรือแม้แต่ถ่ายภาพในพื้นที่จำกัดก็สามารถมองเห็นได้ครบตามที่ใจต้องการ

โหมดปกติ

เปิดโหมด Ultra Wide Angle

Ultra Clear 108MP Image สุดยอดความคมชัดระดับมือโปร

OPPO Reno3 Pro สามารถถ่ายภาพความละเอียดได้ถึง 108MP ภาพคมชัด เก็บรายละเอียดของสิ่งที่ถ่ายได้ครบถ้วน ถึงแม้จะนำภาพมาขยายให้ใหญ่ขึ้นภาพก็ยังจะคมชัดไม่เปลี่ยนแปลง และยังมีรูปแบบเลนส์ให้เลือกถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มาตรฐาน เลนส์ซูมระยะไกล และเลนส์มุมกว้างมาโครอีกด้วย

ภาพต้นฉบับที่ถ่ายด้วย XHD

ภาพที่นำมาขยาย

Hybrid Zoom 5 เท่า

เรื่องประสิทธิภาพการซูมก็ถือว่าจัดมาให้อย่างสาสมเลยทีเดียวกับฟังก์ชัน Hybrid Zoom ซูมไกลได้ถึง 5 เท่า และยังสามารถซูมแบบ Digital ได้มากถึง 20 เท่า

โหมดปกติ

2x Hybrid Optical Zoom

5x Hybrid Optical Zoom

โหมดปกติ (Ultra Dark Mode)

20x Digital Zoom

VDO คุณภาพเยี่ยม
พร้อมตัดต่อผ่าน SOLOOP ได้ง่าย ๆ

การถ่ายวิดีโอของ OPPO Reno3 Pro ตัวนี้ จุดเด่นอยู่ที่โหมด Ultra Steady Video 2.0 หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “กันสั่น” ช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่งขึ้น สามารถปรับ Bokeh Effect ที่สามารถละลายฉากหลังได้ และการถ่ายวิดีโอในโหมด Ultra Wide Angle มีมุมที่กว้างขึ้นเกือบ 120 องศา

คลิปวิดีโอที่ดีแล้วก็ต้องมีการตัดต่อที่น่าดูด้วย เราสามารถนำวิดีโอที่ถ่ายเข้าโปรแกรมตัดต่อในเครื่องที่มีชื่อว่า “SOLOOP Smart Video Editor” ใช้งานง่าย ๆ มี Template ให้เลือกมากมาย ต่อไปนี้ถ้าจะสร้าง Vlog สักคอนเทนต์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วล่ะ

OPPO Reno3 Pro ชาร์จไวเว่อร์
กับ VOOC Flash Charge 4.0

อย่างที่รู้กันดีว่า เมื่อไหร่ที่มีคำว่า “VOOC” มั่นใจได้เลยว่าชาร์จเร็วแน่นอน OPPO Reno3 Pro ใช้ VOOC Flash Charge 4.0 แบตเตอรี่ใหญ่ขนาด 4,025 mAh เร่งความเร็วในการชาร์จมากกว่าเคย เพียง 20 นาที สามารถได้แบตเตอรี่เพิ่มมากถึง 50% ชาร์จไปเล่นไปเครื่องก็ไม่ร้อน เพราะมีระบบชิปรักษาความปลอดภัยถึง 5 ชั้น เดี๋ยวเรามาพิสูจน์ความไวของการชาร์จแบตฯ กัน

ผ่านไป 20 นาที เราได้แบตฯ เพิ่มขึ้นมาเกือบ 50% และเมื่อชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

OPPO Reno3 Pro สเปกนี้ที่ใครก็อยากจับจอง

RAM 8GB, ROM 256GB ไหลลื่นไม่ต้องกลัวสะดุด

หากต้องการความเร็ว ความแรง และไหลลื่น ก็ต้องบอกเลยว่า OPPO Reno3 Pro จัด RAM มาให้ 8GB และ ROM 256GB ไหลลื่นไม่ต้องกลัวสะดุด พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่าด้วย MTK P95 จาก MediaTek เป็นหนึ่งในเครื่องมือประมวลผล AI ที่ทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟน 4G ที่รองรับการทำงานกล้องแบบ AI

Hyperboost ล่าสุดเพื่อคอเกมเมอร์

นอกจากนี้ยังขอเอาใจคอเกมเมอร์ด้วยระบบ Hyperboost เวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อสนองนี้ดการเล่นเกมได้สนุกและสมจริงมากขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยตอบข้อความได้อย่างรวดเร็วและต้องไม่รบกวนการเล่นเกม พูดคุยได้อย่างชัดเจน ไร้เสียงรบกวนด้วย Algorithm Elevoc

จอแสดงผล Super AMOLED Screen ถนอมสายตา

มาถึงเรื่องของคุณภาพจอแสดงผล OPPO Reno3 Pro ตัวนี้เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Dual Punch-hole Super AMOLED 6.4” ให้ความสว่างมากถึง 800nit และความสว่างสูงสุด 1200nit พร้อมกับมีการปรับความสว่างตามการใช้งาน และเป็นหน้าจอถนอมสายตา มีเทคโนโลยีที่ปกป้องสายตาจากแสงสีฟ้าที่ได้การรับรองจาก TÜV Rheinland บริษัทตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณท์ต่าง ๆ ชั้นนำของโลก ใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น และวัสดุ E3 sunlight display ให้สามารถมองเห็นหน้าจอเมื่อมีแสงจ้าได้อีกด้วย

Hidden Fingerprint Unlock 3.0 สุดแม่นยำ

ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอเพิ่มความปลอดภัยของการใช้งาน จดจำลายนิ้วมือได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น มีระบบการปลดล็อกที่ปลอดภัยมากขึ้นภายใน 334 มิลลิวินาที เมื่อเปิดหน้าจอ และภายใน 358 มิลลิวินาที เมื่อปิดหน้าจอ

ColorOS 7 ประสานพลังแห่งเทคโนโลยีและศิลปะ

ColorOS 7 ดีไซน์ใหม่ที่เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีกับศิลปะมาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ทั้งการออกแบบวอลเปเปอร์กราฟิกที่ดูสมจริง ลดความอิ่มตัวของสี ไอคอนและตัวอักษรดูเรียบง่าย สบายตา เมื่อเข้าสู่โหมดกลางคืนหน้าจอจะปรับโทนสีให้ถนอมสายตาขึ้นในขณะใช้งาน

เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับคนรักการถ่ายภาพ ทั้งกล้องหน้าคู่ความคมชัดสูง หรือจะกล้องหลังเทพรวมฟังก์ชันเด็ด ถ่ายวิดีโอก็ไม่เป็นสองรองใคร แค่เครื่องเดียวสามารถช่วยเติมสีสันให้กับวันเหงา ๆ ได้ มีโฟโต้อัลบั้มงาม ๆ เก็บไว้ในความทรงจำ หากใครสนใจอยากจับจองมาลองสัมผัส OPPO Reno3 Pro ได้เลย ถ้าไม่บอกว่าคุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ oppo.com

โดย OPPO Reno3 Pro พร้อมให้พรีออร์เดอร์ตั้งแต่วันที่ 1-7 พฤษภาคม 2563 ในราคา 18,990 บาท และเมื่อจองกับ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รับไปเลยโปรโมชั่น 3 ต่อ ! รวมมูลค่าทั้งหมด 7,990 บาท ดังนี้

ต่อที่ 1 รับฟรี OPPO E-VIP Service ประกันหน้าจอแตก นาน 1 ปี มูลค่า 6,000 บาท
ต่อที่ 2 กระเป๋าสุดเท่ OPPO Backpack มูลค่า 1,490 บาท และยังไม่พอ
ต่อที่ 3 รับไปเลยส่วนลด 500 บาท ในวันรับเครื่อง

และเป็นเจ้าของ OPPO Reno3 Pro ในราคาสุดคุ้ม เริ่มต้นเพียง 8,990 บาท เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วประเทศ พร้อมของสมนาคุณ OPPO E-VIP Service และ OPPO Backpack มูลค่ารวม 7,490 บาท

โดย OPPO Reno3 Pro พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ทั่วประเทศ สำหรับหูฟังไร้สาย OPPO Enco W31 วางจำหน่ายในราคา 1,999 บาท พร้อมโปรโมชั่นอีกเพียบ

สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือโปรโมชั่นดี ๆ สามารถติดตามได้ที่ https://web.facebook.com/oppothai/

Location :
ร้าน Peek A Boo Cafe & Friend
Facebook : Peek A Boo Cafe&Friend

รวมรูปภาพ กล้องหน้ามาเหนือ ! OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ 44MP เซลฟี่คมชัดที่สุดในโลก เอาอยู่ทุกสภาพแสง

14+

ประเด็นที่เกี่ยวข้อง