x close

พ่อหอบเศษเงิน จ่ายค่าปรับเกือบหมื่น หลังลูกฝ่ากฎช่วงล็อกดาวน์ - ยอมทุบกระปุกเพื่อลูก แม้ชีวิตลำบาก

          จนท. สะเทือนใจ พ่อหอบเศษเหรียญ - แบงก์ย่อยที่อดออมไว้ จ่ายค่าปรับ 7,500 บาทแทนลูก หลังซ่า ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการสัญจร รับต้องทุบกระปุกเพื่อหาเงินมาจ่าย ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ล็อกดาวน์
ภาพจาก MOHD RASFAN / AFP

          ในขณะที่ภาครัฐมีความพยายามบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 (COVID-19) โดยมีการสั่งล็อกดาวน์ ห้ามประชาชนออกจากบ้านหากไม่มีเหตุจำเป็น และขอให้ทุก ๆ คนร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ การบังคับใช้กฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็น

          ดังเช่นในประเทศมาเลเซีย ที่มีการบังคับใช้มาตรการควบคุมการสัญจร (Movement Control Order : MCO) ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 แต่หลังจากเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน ทางตำรวจกลับพบว่ามีผู้ฝ่าฝืน MCO ที่ถูกจับแล้วถึง 14,922 ราย ซึ่งจากตัวเลขเหล่านี้ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอาจมีการเพิ่มโทษ นอกจากปรับเงินแล้ว ยังอาจต้องเข้าไปนอนคุกด้วย

          ขณะที่ล่าสุด (16 เมษายน 2563) เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ มีรายงานถึงเรื่องราวชวนสะเทือนใจ ที่ได้รับการเปิดเผยจาก สิตี โรไฮซา ซึ่งทำงานอยู่ในสำนักงานสาธารณสุขระดับอำเภอ ในประเทศมาเลเซีย โดยเธอเผยว่าระหว่างที่กำลังปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา เธอได้พบกับชายคนหนึ่งที่เดินทางมาเพื่อจ่ายค่าปรับ 1,000 ริงกิต (ราว 7,500 บาท) แทนลูกชายวัย 18 ปีที่ถูกจับเพราะฝ่าฝืนมาตรการ MCO

          แต่สิ่งที่ทำให้เธออึ้งไปนั้น คือค่าปรับที่ผู้เป็นพ่อนำมาจ่าย ประกอบด้วยธนบัตรชนิด 1 ริงกิต และ 5 ริงกิต ปึกใหญ่ รวมถึงเศษเหรียญกองโต ซึ่งเมื่อเธอลองถามว่าเหตุใดจึงมีแต่เงินสดที่เป็นเศษเงินย่อย ๆ เหล่านี้ ผู้เป็นพ่อก็ตอบด้วยความลำบากใจว่า "ผมต้องทุบกระปุกเพื่อนำเงินมาจ่าย"
 
          คำตอบที่ได้ยินนั้นทำให้เธอสะเทือนใจอย่างมาก เพราะรับรู้ได้ถึงความลำบากของครอบครัวนี้ ที่พยายามจะหาเงินสดเท่าที่มีมาเพื่อจ่ายค่าปรับให้ลูก จนถึงขั้นต้องทุบกระปุกนำเงินที่อดออมไว้มาใช้ ในสถานการณ์ที่เงินทองใช่จะหามาง่าย ๆ และยังเผชิญความเดือดร้อนไม่ต่างกัน

          ทั้งนี้ โรไฮซา ยังได้ย้ำเตือน ฝากไปถึงวัยรุ่นและเด็ก ๆ ทั้งหลายให้ปฏิบัติตามมาตรการ MCO อย่างเคร่งครัด อยู่แค่ในบ้าน เพราะพวกเขาไม่มีเหตุจำเป็นอะไรเลยที่ต้องออกมานอกบ้าน อีกทั้งหากถูกจับปรับขึ้นมา สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นภาระของพ่อแม่ที่ต้องหาเงินทองมาจ่ายค่าปรับให้ แทนที่จะนำเงินอันมีค่าเก็บไว้ใช้เพื่อครอบครัว

          "ฉันหวังจริง ๆ ว่าลูกจะชดใช้เงินให้พ่อของเขาในอนาคต มันน่าเศร้าที่ต้องเห็นพ่อทุบกระปุก เพียงเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าปรับเพื่อช่วยแก้ปัญหาแทนลูกชาย" โรไฮซา ระบุ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่อหอบเศษเงิน จ่ายค่าปรับเกือบหมื่น หลังลูกฝ่ากฎช่วงล็อกดาวน์ - ยอมทุบกระปุกเพื่อลูก แม้ชีวิตลำบาก โพสต์เมื่อ 16 เมษายน 2563 เวลา 17:17:02 21,007 อ่าน
TOP