ลุงเฉาก๊วย ตื้นตัน คนโอนเงินให้เป็นแสน หลังโดนเอาเงิน 5,000 ในเรื่องร้ายยังมีเรื่องดี

        ลุงขายเฉาก๊วย สุดตื้นตัน คนโอนเงินช่วยเหลือเกือบแสน หลังโดนหลอกเอาเงิน เราไม่ทิ้งกัน - หนุ่มวัยรุ่นขอโทษ ตอนนั้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ

         จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของ ลุงขายเฉาก๊วย ที่ถูกวัยรุ่นทำทีมาช่วยลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อรับเงินเยียวยา COVID-19 จำนวน 5,000 บาท แต่ชายวัยรุ่นกลับขโมยกดเงินจากบัญชีลุง 4,000 บาท แล้วบอกลุงว่าได้แค่ 1,000 บาท ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งต่อมา หนุ่มคนดังกล่าวได้ออกมาขอโทษสังคม และมีการนัดไกล่เกลี่ยกับลุงแล้วนั้น

อ่านข่าว : แฉ ! หนุ่มแสบ ทำทีช่วยลุง ลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน ก่อนหลอกเอาเงินไปใช้เอง

         ล่าสุด (17 เมษายน 2563) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายบุญใหล มอมขุนทด หรือลุงล้าน อายุ 69 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเจรจากับ นายเอก (นามสมมติ) ชายวัยรุ่นที่ขโมยเงินไป

         ลุงล้าน เล่าว่า ตนทำอาชีพตระเวนขายเฉาก๊วยไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในอำเภอปากช่อง ไม่เคยรู้ว่ารัฐบาลแจกเงินเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 เนื่องจากบ้านลุงไม่มีทีวี หรือวิทยุ จึงไม่เคยรู้ข่าว กระทั่งวันที่ไปขายเฉาก๊วยแล้วเจอ นายเอก ที่เป็นลูกค้า เข้ามาถามว่าลงทะเบียนรับเงินหรือยัง ซึ่งลุงก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง นายเอกจึงบอกว่าจะลงทะเบียนให้ ลุงก็เอาทะเบียนบ้าน สมุดบัญชี และบัตรประชาชน ให้ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ตอนนั้นลุงก็ตื้นตันใจ และดีใจที่วัยรุ่นคนนี้ช่วยลุง วันนั้นก็เลยเลี้ยงเฉาก๊วย 10 ถุง เพื่อเป็นน้ำใจให้นายเอก

         จากนั้นในวันที่ 15 เมษายน นายเอกโทร. มาบอกว่า ได้เงินแล้ว และนัดลุงให้ออกมาเจอที่ปั๊มน้ำมันเพื่อกดเอทีเอ็ม เมื่อลุงมาถึง ก็ยื่นบัตรเอทีเอ็มให้ จากนั้นนายเอกก็เอาเงินให้ 1,000 บาท บอกว่าได้แค่นี้ ตอนนั้นลุงไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่รู้เรื่อง จนลูกค้าที่ซื้อเฉาก๊วยคนอื่น ๆ มาถาม ลุงก็บอกว่าได้เงินแล้ว 1,000 บาท ทุกคนก็ตกใจ ก่อนมีพลเมืองดีมาช่วยพาแจ้งตำรวจ

            โดยลุงล้าน เล่าอีกว่า ทันทีที่นายเอกเจอหน้าลุงในห้องสอบสวน เขาก็พูดขอโทษ แต่ไม่ได้ยกมือไหว้ และเอาเงินคืนให้ 1,700 บาท เป็นเงินสด ก่อนโอนเข้าบัญชีให้อีก 2,300 บาท ซึ่งลุงไม่โกรธ แต่เสียใจว่ามาหลอกลุงทำไม และขออย่าไปทำกับใครอีก

            หลังการสอบปากคำ นายเอก เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขอโทษกับสิ่งที่ทำไป แต่ไม่ได้มีเจตนาโกง จริง ๆ ก็อยากช่วยลุง แต่บังเอิญวันที่ลุงได้เงินเยียวยา บ้านตนก็เดือดร้อน ต้องหาเงินไปเปลี่ยนยางรถ เพื่อไปขายของ จึงกดเงินของลุงไป ซึ่งตอนนั้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ตอนนี้ก็คืนเงินลุงไปแล้ว และพร้อมรับโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนชาวเน็ตที่แฉประวัติเรื่องฉ้อโกงในอดีต ตนไม่ขอตอบ

            สำหรับ ลุงล้าน อาศัยอยู่คนเดียว มีลูก 2 คน ก็แยกไปมีครอบครัวแล้ว เดิมลุงเป็นช่างไม้ แต่พอแก่มาทำไม่ไหว จึงมาเร่ขายเฉาก๊วยตามหมู่บ้าน ได้กำไรแก้วละ 2 บาท แต่ก่อนเคยขายได้วันละ 300-500 บาท แต่ตอนนี้ขายของไม่ค่อยได้ บางวันได้ 60-100 บาท บางเดือนก็ไม่พอค่าข้าวค่าเช่าบ้าน ลุงก็อดทนทำไป

            ลุงล้าน เล่าอีกว่า ลูกเคยชวนไปอยู่ด้วย แต่ลุงไม่ไป เพราะยังมีแรงทำงานต่อ ตอนที่เกิดเรื่องนี้ ลุงก็ไม่รู้จะไปหาใคร ขอบคุณนักข่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยลุง จากนั้นช่วงบ่าย พลเมืองดีได้นำบัญชีคุณลุงไปเช็กยอดเงิน พบว่า มีประชาชนช่วยกันบริจาคมาให้ลุงเกือบ 1 แสนบาท พอลุงรู้ยอดก็ตกใจตัวสั่น ยกมือไหว้ขอบคุณทุก ๆ คน ที่ช่วยเหลือ จากนี้จะระวังตัว ไม่เชื่อใครง่าย ๆ อีกแล้ว ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคมา ก็จะเก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วยและจำเป็น หากใครผ่านมาแถวปากช่องก็มาอุดหนุนเฉาก๊วยลุงได้



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก