เปิดเรื่องราวของชนเผ่าอะปาตานี ประเทศอินเดีย ชนเผ่าที่บรรดาผู้หญิงเป็นที่เลื่องลือเรื่องความสวย ต้องเจาะจมูกให้สวยน้อยลง เพื่อลดความเสี่ยงภัยผู้หญิงที่อาจจะเกิดขึ้น
ชนเผ่าอะปาตานี (Apatani Tribe) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ตานี เป็นชนเผ่าบริเวณที่ราบสูงในรัฐอรุณาจัลประเทศ ของประเทศอินเดีย มีสมาชิกในชนเผ่าด้วยกันทั้งสิ้นกว่า 60,000 คน ชนเผ่าอะปาตานีจะมีศาสนาเป็นของตัวเองนั่นคือศาสนา ทงอี-โปโล (Donyi-Polo) ซึ่งพวกเขาจะนับถือพระอาทิตย์ (ทงอี) และพระจันทร์ (โปโล)
สิ่งโดดเด่นที่สุดของชนเผ่านี้ก็คือ หญิงชาวเผ่าจะติดเครื่องประดับกลม ๆ สีดำที่เรียกว่า Yaping Hurlo ไว้ที่ปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง นอกจากนั้นยังมีการสักบนใบหน้าอีกด้วย โดยจะสักเป็นเส้นยาวตั้งแต่หน้าผากลงมาจรดปลายจมูก และที่คางอีก 5 เส้นด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนทำไปเพื่อลดความงามของผู้หญิงลงนั่นเอง
เหตุผลที่ว่าไปนี้อาจจะฟังดูแปลก ๆ เสียหน่อยสำหรับคนภายนอก เพราะโดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะต้องทำตัวเองให้สวยที่สุดเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม อันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ แต่บางครั้งความสวยก็นำภัยมาสู่ตัวเอง จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงหลายคนจะคิดหาวิธีป้องกันไม่ให้ใครมองเห็นความงามที่พวกเธอมีอยู่
เรื่องของเรื่องก็คือ ในสมัยก่อนหญิงสาวเผ่าอะปาตานีนั้นมีหน้าตาที่สวยที่สุดในละแวกที่อาศัยอยู่ ทำให้พวกเธอเป็นที่หมายปองของผู้ชายต่างเผ่า และพวกเขาก็มักจะมาก่อเหตุลักพาตัวพวกเธอออกจากหมู่บ้านไปเสมอ เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเธอก็เลยตัดสินใจลดความสวยของชนเผ่าตัวเองลง เพื่อให้ชายต่างเผ่ามองไม่เห็นเสน่ห์ในตัวพวกเธอเสีย ด้วยการเจาะจมูกด้วยเครื่องประดับใหญ่โต ให้ได้ผงะกันตั้งแต่แรกเห็น
แม้ว่าการเจาะจมูกเช่นนี้จะดำเนินมายาวนานก่อนหน้านี้ แต่นับตั้งแต่ปี 2513 หญิงชนเผ่าอะปาตานีก็เริ่มละทิ้งการสืบต่อประเพณีดังกล่าวนี้ไป จนต่อมาก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่นิยมกันแล้ว ปัจจุบันจึงสามารถพบเห็นการเจาะจมูกลักษณะดังกล่าวนี้ได้เพียงเฉพาะในหมู่หญิงวัยชราเท่านั้น
ทั้งนี้ ชนเผ่าอะปาตานีแห่งนี้ ยังได้รับความชื่นชมในเรื่องการทำเกษตรกรรมดีเด่นที่ไม่ต้องใช้แรงงานสัตว์หรือเครื่องจักรใด ๆ และอาชีพเกษตรกรนาข้าวยังคงเป็นรายได้หลักของชนเผ่านี้อยู่จนถึงทุกวันนี้