หนุ่มก่อสร้างโหด ตีหัวเมียดับ-ยัดบ่อเกรอะ-โบกปูนทับ สุดทนไปทำงานเมืองนอกส่งเงินให้เมียทุกเดือน ก่อนรู้ทีหลังเอาเงินไปเลี้ยงชู้ 7 คน แต่ยอมทนมานาน 20 ปี เพราะรัก ก่อนฟางเส้นสุดท้ายขาด หลังเมียประกาศจะพาชู้มานอนที่บ้าน
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พล.ต.ต. ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ปฏิบัติราชการรอง ผบช.ภ.4 แถลงข่าวการจับกุม นายพิส จันดาประดิษฐ์ อายุ 53 ปี ชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังก่อเหตุฆาตกรรม นางบุญเลิศ จันดาประดิษฐ์ อายุ 49 ปี ภรรยา จนเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ก่อนยัดใส่ลงไปในบ่อเกรอะ ลึกประมาณ 1.5 เมตร แล้วใช้ปูนโบกทับเพื่ออำพราง
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ระบุว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับนางบุญเลิศ มาตั้งแต่ปี 2528 มีลูกด้วยกัน 3 คน หญิง 1 คน และชาย 2 คน ก่อนที่จะเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศสิงคโปร์ และส่งเงินมาให้ภรรยาเป็นประจำทุกเดือน แต่เมื่อกลับมาพักที่บ้าน ก็มีญาติมากระซิบบอกว่าให้ทำใจรับสภาพ เพราะนางบุญเลิศกำลังคบชู้
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
หลับทราบเรื่อง ผู้ต้องหาจึงไปถามภรรยาว่าจริงหรือไม่ และก็ได้รับคำตอบว่าเป็นความจริง นายพิสจึงขอร้องให้เลิกนิสัยดังกล่าว จากนั้นนายพิสก็ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และบรูไน แต่ก็ยังส่งเงินกลับบ้านไม่เคยขาด ก่อนจะรู้ว่าภรรยายังไม่เลิกพฤติกรรมเดิม มิหนำซ้ำยังเอาเงินที่นายพิสทำงานหามาด้วยความลำบากไปซื้อเหล้าและเบียร์เลี้ยงผู้ชายอื่น แล้วไปจบด้วยการหลับนอนกัน
จากนั้นเมื่อนายพิสกลับมาอยู่บ้านอย่างถาวร ก็ได้เดินทางมาทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยไม่เคยให้ภรรยาทำงานหนัก ครั้งหนึ่งเคยแกล้งนอนหลับ เห็นภรรยากดโทรศัพท์ไปหาผู้ชาย บอกว่าพรุ่งนี้จะไปทำธุระในเมือง แล้วไปเจอกันที่รีสอร์ต ทำให้นายพิสเสียใจอย่างมากถึงกับนอนน้ำตาไหล แต่ด้วยความรักจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ไปหลับนอนกับชายชู้ บางครั้งนางบุญเลิศก็หาเรื่องทะเลาะ หายหน้าไป 5-10 วัน ถึงกลับเข้าบ้าน ไม่เคยสะทกสะท้านต่อการกระทำใด ๆ ทำให้นายพิสต้องเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจมานานถึง 20 ปี อภัยให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนทนไม่ไหวก่อนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นในที่สุด
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ทั้งนี้ ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 นางบุญเลิศก็หาเรื่องทะเลาะกับผู้ต้องหาแล้วหนีไปนอนบ้านพี่สาว ก่อนจะกลับมาในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 โดยขณะนั้นนายพิสกำลังก่อไฟนึ่งข้าว จากนั้นนางบุญเลิศได้ขอกุญแจรถจักรยานยนต์ของนายพิส เพื่อขี่ไปหาชายชู้ นายพิสจึงบอกว่า หากไปจะฆ่าให้ตาย นางบุญเลิศจึงท้าทายสวน พร้อมชี้หน้าด่าว่า "คนอย่างมึงกล้าฆ่ากูเหรอ" แล้วยิ้มเย้ย นายพิสเห็นก้อนอิฐบล็อกวางอยู่ใกล้ห้องน้ำ จึงหยิบมาแกล้งทำท่าจะตีหัวนางบุญเลิศ
นางบุญเลิศยังพูดหยามศักดิ์ศรีต่ออีกว่า "เดี๋ยวกูจะเอาชายชู้มานอนในบ้าน" นายพิสจึงหน้ามืด คว้าก้อนอิฐทุบศีรษะนางบุญเลิศอย่างแรง 3 ครั้ง จนนางบุญเลิศล้มลงเลือดนองพื้น นายพิสจึงเอาหูแนบที่อกซ้ายและพบว่าหัวใจหยุดเต้น จึงอุ้มศพภรรยามาวางไว้ที่แคร่ ก่อนจะถอดผ้าถุงมาเช็ดเลือดแล้วโยนเผาไฟทิ้ง แล้วนำผ้าห่มมาคลุมร่างไว้
จากนั้น นายพิสตั้งใจว่าจะไปฆ่าชายชู้อีกคน แต่ไปที่บ้านแล้วไม่พบ จึงกลับมานำศพภรรยาโยนบ่อเกรอะที่ฝังท่อปูนไว้ในสภาพเปลือย แล้วผสมปูนโบกปิดอย่างสนิท
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 น.ส.นิตยา ลูกสาว ก็ได้แวะมาหาแม่ แต่ไม่พบ จึงตามหาก่อนที่จะไปเปิดบ่อเกรอะดู และพบแม่นอนเสียชีวิตอยู่ก้นบ่อ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนที่ตำรวจจะตามนายพิสมาสอบสวน เจ้าตัวบอกว่ารู้อยู่แล้วว่าตำรวจจะต้องมาจับกุม จึงรับสารภาพ ก่อนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังอำพรางศพ
ด้าน น.ส.นิตยา ลูกสาวของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทราบมาตลอดว่าแม่สวมเขาให้พ่อ ตนเคยขอร้องให้เลิก แต่แม่ตอบว่าไม่เลิก จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งชาวบ้านต่างรู้ดีว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันเป็นประจำเรื่องคบชู้สู่ชาย แต่ไม่คิดว่าพ่อจะรุนแรงถึงขั้นฆ่าแม่ ตอนนี้ครอบครัวต้องสูญเสียทั้งแม่ ส่วนพ่อก็ต้องติดคุก
นอกจากนี้ แนวหน้า ยังรายงานว่า ลูกสาวคนโตได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่าจะฌาปนกิจแม่ที่ป่าช้าบ้านนาซอ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 จึงอยากให้บรรดาชายชู้ของแม่ทั้ง 7 คน มาร่วมงานศพนี้ด้วย พร้อมฝากข้อคิดว่า หากเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดกับครอบครัวตัวเองบ้าง จะมีความรู้สึกอย่างไร ส่วนนายดำ ชายชู้คนล่าสุด ยังไม่สำนึก และยังเดินอยู่ในหมู่บ้านตามปกติ
จากแหล่งข่าวในหมู่บ้าน (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า นายพิส ผู้ต้องหา เป็นคนขยันทำมาหากิน รักครอบครัวที่สุด ไม่ยอมให้ภรรยาทำงานหนัก มีหน้าที่ดูแลลูกทั้ง 3 คนเท่านั้น และตั้งมั่นจะให้ลูกชายคนกลางเรียนในระดับสูงจนจบวิศวกร เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาในตระกูล แม้ที่ผ่านมานายพิสจะรู้อยู่เต็มอกว่าภรรยาสวมเขา ก็แกล้งเป็นรู้บ้างไม่รู้บ้าง เหตุที่ไม่ยอมหย่าขาดเพราะรักภรรยา ให้อภัยทุกครั้งที่ภรรยาไปคบคนใหม่ อีกทั้งยังมาเยาะเย้ยให้เจ็บช้ำน้ำใจประจำ ฟางเส้นสุดท้ายขาดเพราะจะเอาชายชู้มานอนในบ้าน นายพิสจึงกลายเป็นฆาตกรฆ่าภรรยา คนในหมู่บ้านล้วนเห็นใจในชะตากรรมของผู้ต้องหา
ขอบคุณข้อมูลจาก อมรินทร์ ทีวี, แนวหน้า
