x close

เปิ้ล นาคร - คู่กรณี ประจันหน้า เคลียร์ใจแมน ๆ หลังตะโกนแจกของลับ ควักมีดขู่ถึงบริษัท


          เปิดนาที เปิ้ล นาคร ประจันหน้าคู่กรณี หลังตะโกนแจกของลับ บุกควักมีดขู่พนักงานถึงบริษัท คู่กรณีสวนกลับ อีกฝ่ายไปหยิบมีดยาวมาเหมือนกัน ปะทุเดือดเพราะเรื่องไฟหน้ารถ เคลียร์ใจกันแมน ๆ ก่อนจบลงด้วยดี

เปิ้ล นาคร

          จากกรณี เปิ้ล นาคร ขึ้นโรงพักแจ้งความ เนื่องจากมีคู่กรณีซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบริษัท เมาแล้วถือมีดบุกเข้ามาที่บริษัท จะแทงพนักงาน ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 แต่พนักงานปิดบังไว้ เพราะกลัวเปิ้ลจะเครียด เจ้าตัวรู้เรื่องหลังผ่านไป 1 สัปดาห์ จึงเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน โดยก่อนหน้านี้ คู่กรณีเคยบอกสาเหตุว่า พนักงานบริษัทเปิดไฟรถไปโดนหน้าบ้านเขา แต่เปิ้ลคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น ที่ถึงขั้นจะมาแทงกันได้ จึงได้ให้ตำรวจนัดไกล่เกลี่ยที่ สน.คันนายาว

          อ่านข่าว : เปิ้ล นาคร เผยเหตุคนเมาบุกแทงพนักงานที่บริษัท อ้างเปิดไฟโดนหน้าบ้าน !?


          ล่าสุด (12 พฤษภาคม 2563) ไนน์เอ็นเตอร์เทน รายงานว่า เปิ้ล นาคร พร้อมด้วยภรรยา จูน กษมา และพนักงาน เข้าพูดคุยกับ นายสุพจน์ จำเริญพฤกษ อายุ 47 ปี คู่กรณี ที่ สน.คันนายาว โดยทั้ง เปิ้ล นาคร และนายสุพจน์ นั่งพูดคุยกันต่อหน้า ท่ามกลางสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          โดยนายสุพจน์ ยอมรับว่า ตนถือมีดเข้าไปในบริษัทของเปิ้ลจริง เนื่องจากปกติตนกับเพื่อนมักนั่งดื่มสุรากันที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบริษัทของเปิ้ล และมักเจอพนักงานชายคู่กรณี เปิดไฟสูงสาดใส่อยู่บ่อย ๆ ทั้งที่เป็นไฟออโต้ ต้องสตาร์ตรถไฟถึงจะเปิด ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขับไปไหน แต่เปิดไฟรถใส่พวกตน จนหลายครั้งพวกตนต้องเลิกกิน ตนเคยตะโกนบอกให้พนักงานบริษัทปิดไฟหน้ารถหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมปิด

เปิ้ล นาคร

          มีวันหนึ่งตนตะโกนไปว่า "พี่ช่วยปิดไฟหน่อย" แต่เขามองหน้าตน ถุยน้ำลายใส่พื้น แล้วไปนั่งสูบบุหรี่ ทั้งที่ยังเปิดไฟสาดใส่พวกตนอยู่อย่างนั้น "เป็นพี่เปิ้ลพี่จะรู้สึกยังไง ? พี่เปิ้ลจะรู้สึกยังไงถ้าโดนแบบนี้ ลองถามเขาสิ ลองถามพี่เขาสิ (มองและชี้ไปที่พนักงาน) ว่าผมพูดจริงหรือโกหก" จนตนต้องเดินข้ามฝั่งไปบอกให้ปิดไฟรถและข้ามกลับมาที่บ้าน แต่เขาก็ยังไม่ปิดไฟ

          ระหว่างนั้น เปิ้ล นาคร ได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า บริษัทของตนอยู่ริมถนน ส่วนบ้านของคู่กรณีอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีถนน 6 เลนกั้นอยู่ นายสุพจน์ ได้เสริมอีกว่า ตนกินเหล้าดึก ๆ พนักงานคนดังกล่าวจะอยู่คนเดียว หลังจากที่คนอื่น ๆ กลับกันหมด แล้วเขาก็จะเปิดไฟสูงสาดมาเป็นประจำ จนหลัง ๆ ตนกับเพื่อน ๆ ย้ายไปกินในบ้านเพราะไม่อยากมีปัญหา

เปิ้ล นาคร

          ก่อนวันเกิดเหตุตนขับรถไปรับลูกกลับบ้าน เจอพนักงานคนนี้มองหน้าตลอด ตนยังหันไปยิ้มให้แล้วเข้าบ้านไป กระทั่งวันเกิดเหตุ เจอเขามองหน้าใส่อีก ตนเลยตะโกนไปว่า "มองหน้าXวยไร" อีกฝ่ายกวักมือเรียก ตนจึงเดินข้ามไปหาที่ลานจอดรถของบริษัท ก่อนจะทะเลาะกัน อีกฝ่ายเปิดฉากต่อยตนก่อน แต่ไม่โดน ตนเลยควักมีดพกที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แต่ยังไม่ได้ทำอะไร อีกฝ่ายวิ่งไปหยิบมีดยาวมาจะฟันตน แต่คนที่บริษัทเข้ามาห้ามก่อนและแยกย้าย ทั้งนี้ นายสุพจน์ยอมรับว่าตนเองผิด แต่มั่นใจว่าตนไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง

          ด้าน เปิ้ล นาคร กล่าวว่า คู่กรณีเข้าใจผิดว่าพนักงานไปเปิดไฟกวนใส่เขา จึงทำให้เขามีอารมณ์ ความจริงแล้วพนักงานคนนี้ มีหน้าที่ปิดตึก เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร จึงขอให้คู่กรณีปรับทัศนคติกับคนของบริษัทตนเองใหม่ บางคนหน้าตาไม่ยิ้มแย้ม ไม่ได้แปลว่ามีอะไรในใจ แต่หน้าตาเขาอาจเป็นแบบนั้น และในเมื่อคู่กรณีก็เข้าใจและสำนึกผิดที่เข้ามาในพื้นที่ของตน ตนก็ให้อภัยทุกอย่าง

เปิ้ล นาคร

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ นายสุพจน์ กับพนักงานบริษัท จับมือกัน เพื่อยืนยันว่าไม่มีอะไรติดค้างและทุกอย่างจบด้วยดี อย่างไรก็ตาม นายสุพจน์เข้าข่ายความผิดพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนเรื่องการบุกรุกต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่ายด้วยหรือไม่



เปิ้ล นาคร



ขอบคุณข้อมูลจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิ้ล นาคร - คู่กรณี ประจันหน้า เคลียร์ใจแมน ๆ หลังตะโกนแจกของลับ ควักมีดขู่ถึงบริษัท อัปเดตล่าสุด 13 พฤษภาคม 2563 เวลา 13:29:00 55,563 อ่าน
TOP