ยายยกครอบครัวเข้าแจ้งความ หลังกินขนมจีบมรณะ จนล้มป่วยท้องเสียหนัก ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล แอดมิต 5 วัน แพทย์ตรวจพบค่าเม็ดเลือดขาวพุ่ง
วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นางสุนีย์ พาสุนันท์ อายุ 62 ปี ได้นำใบรับรองแพทย์เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ธราวุธ ไชยสาร สารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อแจ้งความเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่ครอบครัวได้ซื้อขนมจีบมรณะไปกิน จนล้มป่วยเกือบทั้งบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ที่กินขนมจีบดังกล่าวแล้วเกิดอาการท้องเสีย ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดย นางสุนีย์ เปิดเผยว่า ตนซื้อขนมจีบจากแม่ค้าในข่าว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่บ่อผักกระเฉด จำนวน 3 กล่อง จากนั้นก็นำมาแบ่งให้ลูกหลานในบ้านได้กินกันทั้งหมด 7 คน หลังจากซื้อได้ไม่นานตนก็กินเลย พอตกเย็นก็ไม่ได้กินอย่างอื่นอีก นอกจากข้าวต้มและโอวัลตินร้อน ซึ่งเป็นอาหารที่กินประจำในแต่ละวัน โดยหลังจากที่กินขนมจีบตนเริ่มมีอาการหนาวมากผิดปกติ จนต้องให้ลูกสาวเอาผ้าห่มมาห่มเพิ่ม ตกดึกก็เริ่มปวดท้องและถ่ายเหลวจนอาการแย่ลง จึงให้ลูกสาวพาไปโรงพยาบาลและกลับมาพักที่บ้าน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นางสุนีย์ เล่าต่อว่า เมื่อเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ลูกสาวจึงตัดสินใจพาไปที่โรงพยาบาลเอกชน แพทย์จึงรับตัวไว้รักษาและให้นอนโรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน จนอาการเริ่มดีขึ้น แพทย์จึงให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน แต่ก็ยังมีถ่ายบ้าง เพราะเชื้อยังไม่หมด ส่วนขนมจีบที่กินไปนั้นมองไม่ออกว่าเป็นหมูหรือไก่ แต่รับรู้ได้ว่าคล้ายกับมีส่วนผสมของแห้วที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ส่วนรสชาติไม่ต่างจากขนมจีบที่อื่น จึงกินไปหลายชิ้น
ด้าน น.ส.นัฐกานต์ ลูกของนางสุนีย์ ได้นำเอกสารทางการแพทย์มาเปิดเผย พร้อมระบุว่า จากการสอบถามผลการตรวจรักษาเบื้องต้นพบเชื้อไวรัสในลำไส้และอุจจาระ โดยผลของการตรวจเม็ดเลือดขาวในอุจจาระของคุณแม่ พบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูงถึงหลักร้อย ซึ่งเกินค่าปกติทั่วไปจะอยู่แค่ 1-2 เท่านั้น แต่แพทย์ไม่ได้แจ้งว่าไวรัสที่พบเป็นไวรัสชนิดใด ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีนี้ โดยจะต้องเชิญผู้ที่ซื้อขนมจีบไปแล้วล้มป่วยมาสอบปากคำทุกราย พร้อมทั้งเตรียมออกหมายเรียกให้แม่ค้ารถเร่มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน แต่ในขณะนี้ทราบว่ายังไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ และยังไม่ได้ตั้งข้อหากับผู้ใด ต้องรอผลการตรวจสอบชิ้นขนมจีบจากสาธารณสุขมายืนยันอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวช่องวัน
วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นางสุนีย์ พาสุนันท์ อายุ 62 ปี ได้นำใบรับรองแพทย์เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ธราวุธ ไชยสาร สารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อแจ้งความเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่ครอบครัวได้ซื้อขนมจีบมรณะไปกิน จนล้มป่วยเกือบทั้งบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ที่กินขนมจีบดังกล่าวแล้วเกิดอาการท้องเสีย ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดย นางสุนีย์ เปิดเผยว่า ตนซื้อขนมจีบจากแม่ค้าในข่าว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่บ่อผักกระเฉด จำนวน 3 กล่อง จากนั้นก็นำมาแบ่งให้ลูกหลานในบ้านได้กินกันทั้งหมด 7 คน หลังจากซื้อได้ไม่นานตนก็กินเลย พอตกเย็นก็ไม่ได้กินอย่างอื่นอีก นอกจากข้าวต้มและโอวัลตินร้อน ซึ่งเป็นอาหารที่กินประจำในแต่ละวัน โดยหลังจากที่กินขนมจีบตนเริ่มมีอาการหนาวมากผิดปกติ จนต้องให้ลูกสาวเอาผ้าห่มมาห่มเพิ่ม ตกดึกก็เริ่มปวดท้องและถ่ายเหลวจนอาการแย่ลง จึงให้ลูกสาวพาไปโรงพยาบาลและกลับมาพักที่บ้าน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นางสุนีย์ เล่าต่อว่า เมื่อเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ลูกสาวจึงตัดสินใจพาไปที่โรงพยาบาลเอกชน แพทย์จึงรับตัวไว้รักษาและให้นอนโรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน จนอาการเริ่มดีขึ้น แพทย์จึงให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน แต่ก็ยังมีถ่ายบ้าง เพราะเชื้อยังไม่หมด ส่วนขนมจีบที่กินไปนั้นมองไม่ออกว่าเป็นหมูหรือไก่ แต่รับรู้ได้ว่าคล้ายกับมีส่วนผสมของแห้วที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ส่วนรสชาติไม่ต่างจากขนมจีบที่อื่น จึงกินไปหลายชิ้น
ด้าน น.ส.นัฐกานต์ ลูกของนางสุนีย์ ได้นำเอกสารทางการแพทย์มาเปิดเผย พร้อมระบุว่า จากการสอบถามผลการตรวจรักษาเบื้องต้นพบเชื้อไวรัสในลำไส้และอุจจาระ โดยผลของการตรวจเม็ดเลือดขาวในอุจจาระของคุณแม่ พบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูงถึงหลักร้อย ซึ่งเกินค่าปกติทั่วไปจะอยู่แค่ 1-2 เท่านั้น แต่แพทย์ไม่ได้แจ้งว่าไวรัสที่พบเป็นไวรัสชนิดใด ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีนี้ โดยจะต้องเชิญผู้ที่ซื้อขนมจีบไปแล้วล้มป่วยมาสอบปากคำทุกราย พร้อมทั้งเตรียมออกหมายเรียกให้แม่ค้ารถเร่มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน แต่ในขณะนี้ทราบว่ายังไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ และยังไม่ได้ตั้งข้อหากับผู้ใด ต้องรอผลการตรวจสอบชิ้นขนมจีบจากสาธารณสุขมายืนยันอีกครั้ง
ข่าวช่องวัน