ย่าไม่เชื่อ พ่อข่มขืนลูกในไส้นาน 8 ปี คาด โมโหไม่ให้มีแฟน
จึงตั้งใจทำลายอีกฝ่าย ด้านตำรวจเผย หลังจากที่ทำแท้งเสร็จ
ผู้ต้องหาก็มาเอาซากเด็กไป ทำให้ไม่ทราบว่าตอนนี้ซากเด็กอยู่ไหนแล้ว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวพ่อแท้ ๆ กระทำชำเราลูกสาววัย 18 ปี มายาวนานกว่า
8 ปี กระทั่งเธอตั้งท้อง
ก็ถูกพ่อบังคับให้ทำแท้งด้วยการใช้เข็มใส่แอลกอฮอล์และฉีดเข้าไปในร่างกายผ่านอวัยวะเพศ
ขณะเดียวกัน พ่อแท้ ๆ ก็เคยถูกจับกุมตัวมาแล้วหลายคดี และเคยขู่อดีตภรรยาว่าจะฆ่าทิ้งอีกด้วย
อ่านข่าว : พ่อข่มขืนลูกวัยเรียนจนท้อง - บังคับลูกทำแท้ง แถมลงมือทำแท้งให้ลูกเอง เด็กทรมานทั้งเป็น
อ่านข่าว : พ่อข่มขืนลูกวัยเรียนจนท้อง - บังคับลูกทำแท้ง แถมลงมือทำแท้งให้ลูกเอง เด็กทรมานทั้งเป็น
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ล่าสุด วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นางไก่ (นามสมมติ) ย่าของผู้เสียหาย วัย 67 ปี กล่าวว่า หลานอยู่กับตนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ปกตินางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กับนายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) ลูกชายและพ่อของนางสาวเอ จะนอนห้องเดียวกัน แต่แยกเตียง มีตู้เสื้อผ้ากั้นเอาไว้ ซึ่งตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงแปลก ๆ หรือการร้องขอความช่วยเหลือมาก่อน
ส่วนนิสัยของหลาน เป็นเด็กเงียบ ๆ ไม่ค่อยช่วยงานบ้าน ดื่มเหล้าบ่อยครั้ง มักคุยโทรศัพท์ดึก ๆ แล้วก็มีแฟน ส่วนเรื่องตั้งครรภ์ ตนไม่ทราบ แต่ว่าช่วงหลังก็สวมเสื้อตัวใหญ่แล้วก็อ้วนกว่าปกติ สุดท้ายตนมาทราบเรื่องตอนพ่อลูกทะเลาะกัน หลานสาวบอกว่า "ถ้าพ่อไม่พาไปทำแท้ง จะไปทำคนเดียว" ขณะที่ 2 วันก่อนหน้านี้ นายอภิชาติเล่าให้ตนฟังว่า ตอนนี้ลูกสาวไม่อยู่ ไปรักษาอาการที่อื่น ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับอะไร
ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะข่มขืนหลาน เพราะนายอภิชาตินั้นเงียบขรึม
ไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนี้ และตนก็ไม่ทราบว่าทำไมหลานต้องแจ้งความจับพ่อ
หากลูกในท้องเป็นลูกของพ่อจริง ก็ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน
อีกทั้งก่อนหน้านี้ ลูกชายมักต่อว่าหลานที่ชอบคุยโทรศัพท์เสียงดัง
จนทำให้หลานโกรธ อาจจะเป็นเหตุผลที่ไปแจ้งความก็ได้
หรือไม่ก็เป็นไปได้หรือไม่ที่ลูกชายโดนจับเพราะห้ามหลานสาวเรื่องมีแฟน
หลานจึงบอกว่า "อย่ามาห้ามมากนะ ถ้าหนูมีปัญหา
ก็จะทำให้พ่อมีปัญหาด้วยเช่นกัน"
นอกจากนี้ ตนเคยแนะนำหลานหลังจากที่ลูกชายทำท่าจะตี 1 ครั้งว่า ถ้ามีอะไรให้บอกหรือไปแจ้งความเลย แต่หลานก็สวนกลับมาว่า "ย่าไม่รู้อะไร หนูจะทนเรียนให้จบ ม.6" ซึ่งถ้าหากลูกชายทำผิดจริง ตนก็ไม่เข้าข้าง
นอกจากนี้ ตนเคยแนะนำหลานหลังจากที่ลูกชายทำท่าจะตี 1 ครั้งว่า ถ้ามีอะไรให้บอกหรือไปแจ้งความเลย แต่หลานก็สวนกลับมาว่า "ย่าไม่รู้อะไร หนูจะทนเรียนให้จบ ม.6" ซึ่งถ้าหากลูกชายทำผิดจริง ตนก็ไม่เข้าข้าง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
"เรื่องบังคับทำแท้งไม่รู้เลยค่ะ แต่ลูกชายไม่ได้บังคับ แต่หลานบอกว่า ถ้าพ่อไม่ทำ มันจะไปทำคนเดียว หลานไปอยู่กับแม่แล้วกลับมา สังเกตรูปร่างเปลี่ยน อ้วน หน้าอกใหญ่ ย่าก็เคยถามหลานก็บอกไม่มีอะไร ปรึกษาย่า ย่าช่วยได้ หลานก็บอกว่าไม่มีอะไร อดทนเอาอีกปีเดียวก็จบแล้ว และหลานยังเคยพูดว่า ย่าจะไปรู้อะไร มันอยู่ในใจหนู" นางไก่ กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ ให้ปากคำต่อตำรวจที่ สภ.เมืองลำพูน เบื้องต้นยังไม่ให้ความร่วมมือและให้การปฏิเสธ อ้างว่าขอให้ปากคำในชั้นศาล แต่ระบุว่า รู้สึกสงสัยว่าผู้เสียหายเป็นลูกตนจริงหรือไม่ เพราะตนติดคุกประมาณ 4 ปี ก่อนที่จะติดคุก แม่ของเด็กก็ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ทว่าพอตนออกจากเรือนจำ ลูกสาวกลับอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ. พัฒนพงษ์ ขำแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำพูน เปิดเผยว่า ผู้เสียหายระบุว่า ถูกพ่อกระทำชำเรา 2 ช่วง ดังนี้
1. ช่วงอายุ 11-13 ปี ข่มขืนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นนายอภิชาติติดคุกไป 4 ปี
2. ช่วงอายุ 16-18 ปี ข่มขืนจนผู้เสียหายตั้งครรภ์ ผู้เสียหายถูกสั่งให้ทำแท้งโดยใช้ยามาเหน็บช่องคลอด แต่ไม่ได้ผล จึงเปลี่ยนวิธีใช้แอลกอฮอล์มาฉีดช่องคลอด จนตกเลือดและเก็บซากไว้ พอผู้ต้องหากลับมา ทราบว่าแท้งลูกแล้ว ก็ถามว่าเด็กอยู่ไหน ผู้เสียหายกลัวจึงนำซากให้ผู้ต้องหา
ทางผู้ต้องหาก็นำสายสิญจน์ไปพันที่ซากเด็กทารก นำออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าทำพิธีสะกดวิญญาณหรือไม่
ทั้งนี้ โทษของผู้ต้องหาจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งโทษไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้เสียหาย เช่น ข่มขืนอายุไม่ถึง 13 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี ก็จะมีโทษไม่เหมือนกับอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เป็นต้น
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว