คืบคดี แม่ปุ๊ก วางยาพิษ น้องอมยิ้ม น้องอิ่มบุญ กองปราบชี้ เด็กรับสารพิษผ่านการกิน

         วันที่ 24 พฤษภาคม 2563 คืบหน้าคดีแม่ปุ๊ก วางยาลูก 2 คน จนกระทั่งคนโตเสียชีวิต และคนเล็กมีป่วยหนัก เพื่อหวังฮุบเงินบริจาคที่หมุนเวียนในบัญชีนับสิบล้านบาท ล่าสุด ช่องวัน รายงานว่า พ.ต.อ. ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม แถลงการจับกุม แม่ปุ๊ก ในคดีฉ้อโกงประชาชน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

         ทั้งนี้ พบว่า บัญชีที่แม่ปุ๊กใช้รับโอนเงินต่าง ๆ นั้น เป็นบัญชีของ น.ส.เอม แม่แท้ ๆ ของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ซึ่งแม่ปุ๊กหลอก น.ส.เอม ว่าขอเอกสารเพื่อเอาไปทำประกันให้เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ทำให้ น.ส.เอม หลงเชื่อ นำเอกสารไปเปิดบัญชีย่อย ๆ อีก 4 บัญชี โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินนี้ไม่สัมพันธ์กับค่ารักษา ซึ่งต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่า น.ส.เอม รู้เห็นเกี่ยวข้องกับการวางยาพิษเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) หรือไม่

         ในส่วนของยาพิษนั้น วันที่เข้าจับกุม ตำรวจพบขวดบรรจุของเหลว สีใส และกำลังส่งตรวจว่าสารชนิดนั้นคืออะไร ออกฤทธิ์อย่างใด ได้มาจากที่ไหน ใช่สารที่ใช้เฉพาะทางหรือไม่ และมีใครเกี่ยวข้อง


         ด้านแพทย์ยืนยันว่าเด็กทั้ง 2 คน ได้รับสารพิษผ่านการกิน เข้าไปทางระบบทางเดินอาหาร ไม่ใช่โรคเรนินโนม่าห์ ตามที่แม่ปุ๊กกล่าวอ้าง ซึ่งโรคนี้ไม่พบว่ามีในเมืองไทย ในส่วนการสอบปากคำนั้น แม่ปุ๊ก บอกว่า เด็กชายบี (นามสมมุติ) เป็นลูกแท้ ๆ และพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ แต่ไม่ยอมรับว่าวางยาลูก ยอมรับแค่ในคดีฉ้อโกง อ้างว่าส่งสินค้าไม่ทัน

         ด้าน น.ส.เอม บอกว่า ที่ยกเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ให้แม่ปุ๊กไปเลี้ยง เพราะตนตั้งท้องโดยไม่มีความพร้อม จึงตัดสินใจประกาศหาคนรับอุปการะน้องผ่านโซเชียลมีเดีย ตอนนั้นแม่ปุ๊กติดต่อมา ตนเห็นว่าแม่ปุ๊กเป็นเภสัชกร ก็คิดว่าจะดูแลลูกได้ดี จึงยกลูกให้ไปเลี้ยงโดยไม่ผ่านหน่วยงานรัฐ ไม่มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรบุญธรรม